ประโยคที่ว่า "ขอใบไม้ให้ฉันสัก 1 ใบ แล้วจะสร้างป่าผืนกว้างคืนให้ 1 ผืน" เป็นคำพูดอุปมาอุปไมยที่เปรียบเทียบถึงการเพาะปลูกต้นไม้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่จะดำเนินการปลูกป่าให้เป็นผืนใหญ่นั้น สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ก็คือ ต้นกล้าพันธุ์ไม้ที่จะปลูก ซึ่งแน่นอนจำเป็นจะต้องใช้กล้าพันธุ์เป็นจำนวนมาก หากจะใช้วิธีการขยายพันธุ์พืชวิธีการที่ใช้กันอยู่คงไม่ทันกาลเป็นแน่ เพราะต้องรอเวลานานสักเท่าไรจึงจะปลูกให้เป็นป่าได้ แต่ด้วยกรรมวิธีขยายพันธุ์โดยใช้ใบ ซึ่งมีจำนวนมากมาขยายพันธุ์แทนวิธีการเดิม ก็จะทำให้ได้ต้นกล้าในเวลาอันสั้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขยายพันธุ์ได้เร็ว อัตราการรอดสูง ด้วยกรรมวิธีง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่ละเอียดซับซ้อนยุ่งยาก เหมือนกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งสามารถเพาะเลี้ยงต้นกล้าได้จำนวนมาก แต่ทว่าต้องใช้เงินลงทุนสูง และต้องมีความรู้ความเข้าใจด้านวิชาการ ซึ่งต่างจากกรรมวิธี โคลนนิ่งด้วยใบ ที่มีวิธีการง่ายๆที่เกษตรกร ชาวบ้านะรรมดาก็สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมีกรรมวิธีเช่นเดียวกับการปักชำทั่วไป หากแต่ว่าส่วนที่จะนำมาขยายพันธุ์นั้นแทนที่จะเป็นส่วนที่เป็นกิ่ง ก็กลับหันมาใช้ใบไม้แทน เพราะส่วนที่เป็นกิ่งในต้นหนึ่งๆนั้นย่อมมีน้อยกว่าใบอย่างแน่นอน และเมื่อทำการขยายพันธุ์ได้ชุดแรก ชุดรุ่นที่สองก็ไม่จำเป็นต้องรอนานจนแตกกิ่งได้เป็นจำนวนมาก หากแต่ให้มีใบที่สมบูรณ์ท่านั้นก็นำมาขยายพันธุ์ได้แล้ว ซึ่งการขยายพันธุ์โดยวิธีนี้ สมารถขายพันธุ์ได้เป็นทวีคูณในเวลาอันสั้น เพียงแต่ให้มีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อไปนี้

1.โรงเรือนเพาะชำที่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นครบครัน (อุปกรณ์ให้น้ำ แปลงเพาะ ไฟให้แสงสว่าง)  2.ปุ๋ย (ละลายน้ำที่ให้ทางใบ) 3.อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคที่ควบคุมการให้น้ำ แสงสว่าง ปุ๋ยน้ำ (คอมพิวเตอร์) 4.ซอล์ฟแวร์ในการจัดการ 5.ตัวเซ็นเซอร์ (รับข้อมูลความต้องการปัจจัยต่างๆของพืช) ออกแบบมาให้เป็นรูปใบไม้ที่อัดแผนวงจรรับข้อมูลสภาพแวดล้อมแปลงเพาะ เพื่อส่งรายงานไปยังศูนย์ควบคุมการจ่ายน้ำ ปุ๋ย แสงสว่าง (คอมพิวเตอร์นั่นเอง)

พืชทุกชนิดสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แห่งหนตำบลใด งบประมาณการลงทุนประมาณ 5 แสนบาทต่อหนึ่งยูนิต (โรงเรือน อุปกรณ์ทั้งชุด ยกเว้นที่ดิน)