1. นาหว่านน้ำตม

ให้แช่เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก 1 ครั้ง และฉีดพ่นให้ทางใบเมื่อต้นข้าวเริ่มแทงช่อดอกอีก 1 ครั้ง (รวม 2 ครั้ง ตั้งแต่ปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว)

การแช่เมล็ดพันธุ์ 

ให้เจือจาง นาซี 778 ขนาดบรรจุ 1 ลิตร (1,000 ซีซี.) กับน้ำสะอาดที่ปราศจากสารเคมีเจือปน 100 ลิตร จากนั้นให้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เตรียมเอาไว้ลงแช่เป็นเวลา 12 - 24 ชั่วโมง (การแช่เมล็ดพันธุ์นั้นสามารถนำลงแช่ทั้งกระสอบก็ได้ แต่ต้องให้ท่วมมิดทั้งกระสอบ ถ้าต้องการให้น้ำยาซึมเข้ากระสอบได้เร็วขึ้น ให้ใช้เหล็กแหลมขนาดเล็กทิ่มแทงกระสอบบรรจุเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เป็นรูพอประมาณ น้ำยาจะซึมเปียกเมล็ดข้าวได้เร็วขึ้น หรือไม่ก็ถ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวใส่ถุงมุ้งพลาสติกก็ได้) เมื่อแช่ได้ครบตามเวลาที่กำหนดแล้ว ให้นำขึ้นผึ่งเพื่อทำการบ่มให้แตกรากต่อไป ในช่วงเวลาที่ทำการบ่มนี้ ถ้าน้ำยาที่ใช้แช่ยังคงมีเหลืออยู่ ให้ใช้น้ำยาที่เหลือนี้ราดรดรักษาความชื้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมล็ดข้าวแตกตุ่มรากพร้อมที่จะนำไปหว่านลงแปลงนาต่อไป ระวังอย่าเผอเรอบ่มนานจนกระทั่งรากยาวพันกัน เพราะการแทงรากจะเร็วกว่าปกติเกือบเท่าตัว ส่วนการจัดการดูแลถัดจากนี้ไปก็ให้กระทำตามปกติวิสัยดังที่เคยกระทำ

2. นาดำ

แม้ว่าการแช่เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกด้วย นาซี 778 จะให้ผลตอบสนองที่ดีที่สุด แต่การแช่เมล็ดข้าวตกกล้าดำนานั้น มีปัญหาทางด้านแรงงานว่าจ้างในการถอนกล้า เนื่องจากต้นกล้ามีรากหนาแน่นและกินลึก ทำให้การถอนกล้ากินแรงมาก ทำให้ไม่ใคร่มีผู้รับจ้างทำงานกัน จึงแนะนำให้เลี่ยงการแช่เมล็ดพันธุ์ แล้วหันมาใช้การชุบต้นกล้าแทน วิธีการนั้นก็คือ ให้ทำการหว่านเมล็ดข้าวเพาะกล้าตามปกติ เมื่อกล้าโตได้ขนาด หลังทำการถอนกล้า มัดกล้าเป็นมัดๆดังที่เคยทำมาแล้ว ให้ชุบกล้าพันธุ์ในสารละลายของ นาซี 778 กับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 (นาซี 778 ขนาด 1 ลิตร ผสมกับน้ำ 100 ลิตร) นำมัดกล้าลงชุบแช่ให้มิด 2 – 3 นาที แล้วเอาขึ้นวางตั้งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นจึงนำไปปักดำ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างจากการแช่เมล็ดมากนัก

สำหรับการเพาะกล้าในกระบะเพาะ ปักดำด้วยรถดำนา  การแช่เมล็ดพันธุ์เพาะกล้าเพื่อใช้กับเครื่องดำนานั้น อาจเกิดปัญหายุ่งยากในการดำเนินงาน เนื่องจากระบบรากหนาแน่นกว่าปกติมาก จึงไม่แนะนำให้แช่เมล็ดข้าว หากแต่แนะนำให้ราดรดต้นกล้าด้วยสารละลาย นาซี 778 ก่อนทำการปักดำสัก 1 วัน โดยใช้อัตราส่วนผสม 1 ต่อ 100 (นาซีฯ 1 ลิตร น้ำ 100 ลิตร) วิธีนี้ก็ได้ผลไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน 

การฉีดพ่นให้ทางใบ (ทั้งในนาหว่านน้ำตม และนาดำ)

เมื่อต้นข้าวเริ่มแทงช่อดอก ให้ใช้ นาซี 778 จำนวน 1 ลิตร ผสมน้ำ 120 ถึง 150 ลิตร เติมสารจับใบเล็กน้อย ฉีดพ่นให้เปียกทั่วใบในเวลาเย็น หลังจากนั้นก็ให้จัดการดูแลตามปกติที่เคยทำ

หมายเหตุ   ในกรณีที่หว่านข้าวโดยไม่ได้แช่เมล็ดพันธุ์ก่อนหว่านตามวิธีการที่กล่าวข้างต้นแล้ว  ให้ใช้วิธีฉีดพ่นให้ทางใบได้เช่นเดียวกับการทำนาหว่านน้ำแห้ง  แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะด้อยกว่าการแช่เมล็ดพันธุ์เล็กน้อย  (ดูวิธีใช้ในนาหว่านน้ำแห้ง ข้อ 3) พืชที่ปลูกโดยใช้ นาซี 778 แล้วไม่จำเป็นต้องให้สารอาหารเสริมอื่นๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุปลีกย่อย อาหารทางด่วน ไคโตซาน หรือฮอร์โมน ให้แต่น้ำและปุ๋ยเท่านั้น ส่วนยากำจัดโรคและแมลงนั้น ให้ใช้เพื่อการกำจัดทำลายเมื่อพบว่ามีโรคเกิดขึ้น หรือแมลงเข้ากัดกินทำลายเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ฉีดดัก - ป้องกันล่วงหน้า เนื่องจากต้นพืชสร้างภูมิคุ้มกันสูงกว่าปกติได้ในระดับหนึ่ง การเกิดโรคและแมลงเข้าทำลายนั้นลดน้อยลงไปมาก แต่การใช้ยาเหล่านี้ก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เมื่อพบเห็นอาการของโรค และการระบาดเข้ากัดกินทำลายของแมลงเกิดขึ้น 

3. นาหว่านน้ำแห้ง

ไม่แนะนำให้แช่เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกในการทำนาคอยฝน  แต่ให้ใช้วิธีฉีดพ่นให้ทางใบ 2 ครั้ง  ครั้งแรกเมื่อต้นกล้าแตกใบอ่อนได้ 6 - 8 ใบ  ครั้งที่สองเมื่อต้นข้าวเริ่มแทงช่อดอก

ให้เจือจาง  นาซี 778 ขวด 1,000  CC. (1 ลิตร) กับน้ำสะอาดที่ปราศจากสารเคมีเจือปน 100 ลิตร ในการฉีดพ่นครั้งแรก เติมสารจับใบ 4 - 8 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปฉีดพ่นให้ทั่วใบเมื่อต้นกล้าข้าวแตกใบได้ 4 – 8 ใบ ฉีดพ่นพอเปียกไม่ต้องถึงกับโชก ควรทำการฉีดในช่วงเช้าหรือในเวลาเย็นเป็นการดีที่สุด และให้ฉีดพ่นเมื่อน้ำในแปลงนามีระดับน้ำน้อยที่สุด หลังจากฉีดพ่นไปแล้ว 1 วัน จึงค่อยไขน้ำเข้าแปลงนา ส่วนในการฉีดพ่นครั้งที่ 2 นั้น ให้ใช้ นาซี 778 1 ลิตร ต่อน้ำ 120 – 150 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อต้นข้าวเริ่มแทงช่อดอก (ให้เติมสารจับใบทุกครั้ง) 

หมายเหตุ   ในกรณีที่ฝนตกหลังฉีดพ่นไม่เกิน 3 ชั่วโมง ต้องทำการฉีดพ่นใหม่ซ้ำในอัตราส่วนเท่าเดิม ในกรณีที่ฉีดพ่นไปแล้วไม่เกิน 6 ชั่วโมง ให้ทำการฉีดซ้ำอีกครั้ง โดยลดอัตราส่วนของตัวยา นาซี 778ลงกึ่งหนึ่ง (1 ต่อ 150 - 200)

********************************************************************************  

ข้อควรจำ   ในกรณีใช้ฉีดพ่นให้ทางใบ  สารละลายที่เจือจางแล้ว ควรใช้ให้หมดภายในเวลา 10 ชั่วโมง