ปัญหาการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ นาซี 778 (สารชักนำพันธุกรรมพืช จีพีไอที) ที่ทางบริษัทประสบอยู่ก็คือ 1.ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสารสมุนไพร  2.อัตราการใช้ค่อนข้างสูง (เพราะไม่ใช่สารเคมี แต่ความถี่ในการใช้น้อยครั้ง 2 ถึง 3 ครั้งเท่านั้นในพืชผักและพืชไร่ ตั้งแต่ปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว และปีละ 2 ครั้งเท่านั้นในพืชยืนต้นและผลไม้ เมื่อคำนวณเปรียบเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆแล้ว จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่ากันมาก) 3.ราคาค่อนข้างสูง (ราคาสูง แต่ไม่ใช่ราคาแพง การที่จะตัดสินว่าผลิตภัณฑ์ตัวใดราคาแพงหรือไม่นั้น ต้องดูผลสนองตอบให้นั้นว่าคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ อย่างถ้าใช้นาซี 778 กับนาข้าว 1 ไร่ เพียงแค่ 1 ลิตร ราคา 600 บาท สามารถเพิ่มผลผลิตได้เป็น 1,400 กก. จากเดิมที่เคยได้แค่  1,000 กก. ส่วนที่เพิ่ม 400 กก.นี้ จำหน่ายได้ กก. ละ 10 บาท ก็จะได้เงินเพิ่มถึง 4,000 บาท หักค่านาซี778 ออก 600 บาท ยังได้เงินเพิ่มถึง 3,400 บาท เช่นนี้จะถือว่าผลิตภัณฑ์นี้ราคาแพงก็คงไม่ได้ ต้องบอกว่าสารนาซี 778 นี้ถูกดีแท้เสียอีก) มีลูกค้าหลายรายที่แรกๆซื้อหาไปใช้กัน ต่างก็มีความเห็นเหมือนกับคุณชาวไร่นี่แหละว่าราคามันแพงนะ ราคามันสูงนะ  แต่เมื่อนำไปใช้ และหลังจากทำการเก็บเกี่ยวแล้ว ต่างก็บอกกล่าวว่า มันราคาถูกจัง  ถ้ามันให้ผลดังที่เห็นๆนี้  ราคาเป็นพันผมยังซื้อเลย

กรณีที่คุณชาวไร่ จะนำไปใช้กับการปลูกข้าวโพดนั้น ราคาไม่แพงเลย เพราะ นาซี 1 ลิตรนั้นสามารถแช่เมล็ดปลูกได้ถึง 5 ไร่ (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) และใช้ได้ถึง 10 ไร่ (ข้าวโพดหวานฝักสด) และ ใช้ฉีดพ่นอีกหนึ่งครั้งก่อนดอกตัวผู้จะแทงช่อดอกอีก 1 ลิตร  แล้วแทบจะไม่ต้องใช้ยาโรคราและแมลงเลย  จะคุ้มค่ากว่ากันไหม ถ้าให้ผลผลิตเพิ่ม 30-40 % (โดยน้ำหนัก)

ถ้าคุณชาวไร่จะประหยัดโดยการแช่เมล็ดก่อนปลูกเพียงครั้งเดียวก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า  แต่ผลตอบสนองโดยรวมทุกด้านนั้นอาจจะไม่บรรลุถึงขีดสูงสุดของมัน  แต่ถ้าใช้ 2 ครั้ง ผลที่ได้รับนั้นสูงสุดขีดอย่างแน่นอน  คุณชาวนาไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด 80 ไร่  ลองใช้แค่ครึ่งเดียว 40 ไร่ จะได้เปรียบเทียบผลที่ปรากฏออกมาได้อย่างชัดเจนอีกด้วยว่า ใช้ กับ ไม่ใช้ นั้น แปลงไหนจะดีกว่ากัน และดีกว่ากันเท่าไร  และอย่างไรอีกด้วย