มีเกษตรกร และผู้สนใจในแวดวงการเกษตรได้สอบถามถึงผลิตภัณฑ์ นาซี 778 กับ ไคโตซาน โอทูฟลาโวเจน และอื่นๆอีกหลายชนิด ในที่นี้จะแยกแยะให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง นาซี 778 และผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว

1.นาซี 778 เป็นสารสมุนไพรจีน 104 ชนิด ที่บดป่นเป็นผงละเอียด ในสัดส่วนที่เหมาะเจาะจนสามารถออกฤทธิ์ชักนำการแสดงออกลักษณะภายนอกของพืช รวมทั้งกระตุ้นการทำงานของกระบวนการต่างๆภายในต้นพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขบวนการ  แสงสังเคราะห์  ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 104 % (ในพืชตระกูลแตง) ซึ่งกลไกการออกฤทธิ์ของสาร นาซี 778 นั้น มีผลกับหน่วยพันธุกรรม (ยีน) ที่มีอยู่ภายในต้นพืชนั้นๆ ดังนั้นกลไกการทำงานของ นาซี 778 จึงแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์อื่นๆโดยสิ้นเชิง ซึ่งกล่าวได้ว่า มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นในโลกปัจจุบัน ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า นาซี 778 นั้น ไม่ใช่ปุ๋ย หรือธาตุอาหารพืช ไม่ใช่ฮอร์โมน (แต่ผลที่แสดงออกนั้นคล้ายกับฮอร์โมน) และไม่ใช่อาหารเสริมพืชอย่างแน่นอน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ในเมื่อ ไม่ใช่ปุ๋ย ไม่ใช่อะไรต่อมิอะไรดังที่กล่าวมาแล้ว ทำไมจึงสามารถทำให้ต้นพืชแข็งแรง เติบโตได้เร็วไว ให้ผลผลิตสูงกว่าปกติเป็นเท่าๆตัวได้ และมีคุณภาพที่ดีเยี่ยมเป็นที่สุด  นั่นเป็นทัศนคติที่ล้าสมัยเก่าคร่ำครึไปแล้ว ที่เข้าใจว่า ต้องใส่ปุ๋ย ให้อาหารเสริม และฮอร์โมนถ่ายเดียว เท่านั้นจึงจะทำให้พืชให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นได้ จริงอยู่ พืชต้องการปุ๋ย ต้องการน้ำ ต้องการอากาศ จึงจะสามารถเติบโตให้ผลผลิตได้ ถูกต้อง แต่สิ่งเหล่านี้ ถือได้ว่าเป็นปัจจัยภายนอกเท่านั้น เราครุ่นคิดคำนึงถึงแต่ปัจจัยภายนอก แต่ให้ความสนใจกับปัจจัยภายในของต้นพืชน้อยมาก ปัจจัยภายในที่ว่านี้ก็คือ สายพันธุ์ และกระบวนการทำงานภายในของต้นพืชนั่นเอง

ในส่วนของสายพันธุ์เราก็ได้ดำเนินการมาเป็นเวลานานแล้ว นั่นก็คือการปรับปรุงพันธุ์ การผลิตสายพันธุ์ลูกผสมที่เราเห็นๆกันอยู่ว่าดีกว่าสายพันธุ์เปิด ซึ่งสายพันธุ์ลูกผสมเหล่านี้ต่างก็ปรับระดับผลลัพธ์ด้านต่างๆได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัตราความเร็วในการเจริญเติบโต ผลผิตที่เพิ่มขึ้น คุณภาพที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ปัจจัยภายในในส่วนนี้ เกี่ยวข้องกับยีนโดยชัดเจน แต่คุณสมบัติของสายพันธุ์ลูกผสมนั้นไม่มีความคงมั่น ไม่มีความมั่นคงในสายพันธุ์ มีความแปรปรวนสูง ในรุ่นถัดๆไป

ปรากฏหลักฐานยืนยันหลายๆกรณีที่ชี้ชัดว่า นาซี 778 นั้นทำงานเกี่ยวข้องกับหน่วยพันธุกรรม เนื่องจากมีเกษตรกรบางท่านได้ใช้นาซี 778 กับต้นพืชในอัตราที่ค่อนข้างสูง หรือใช้ถี่เกินไป จนกระทั่งทำให้ลักษณะของพืชเปลี่ยนไปจากเดิม เช่นจากต้นเดี่ยว กลายเป็นเถาไม้เลื้อย ดอกขาวประแดงในกล้วยไม้ เปลี่ยนเป็นดอกแดงล้วน จากไม่มีหนามเป็นมีหนามตามกิ่งและลำต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์อื่นๆไม่สามารถสร้างปรากฏการณ์เช่นว่านี้ได้เลย นี่คือข้อแตกต่าง

ขบวนการ แสงสังเคราะห์ เปรียบได้เหมือนกับโรงงานสร้างอาหารของต้นพืช ขบวนการนี้ต้องใช้พลังงานจากแสงแดด น้ำในดิน ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ ธาตุอาหารต่างจากพื้นดิน ซึ่งต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นกระบวนของส่วนต่างๆของพืช นั่นก็คือ ระบบราก ระบบลำเรียง (ท่อในกิ่ง ก้าน ลำต้น) ระบบป้อนพลังงาน ป้อนอากาศ (ใบ) ซึ่งต้องทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทุกส่วนจะดำเนินไปด้วยดีก็ต้องอาศัยระบบต่างๆดังกล่าวที่ใหญ่โต มีปริมาณมาก นั่นก็คือ รากต้องมีมาก และยาวไกล ใบต้องมีปริมาณมาก หนา และมีขนาดใหญ่ มีสีเขียวเข้ม (สารคลอโรฟิลล์ที่ดักจับพลังงานแสงแดด) เมื่อเป็นไปเช่นนี้แล้ว ขบวนการ แสงสังเคราะห์ก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพิ่มมากขึ้นจากปกติอย่างแน่นอน และผลที่ตามมาก็คงคิดออกว่าเป็นเช่นไร (มิพักต้องกล่าวถึงให้เสียเวลา)

หากจะกล่าวอย่างสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ  กลไกการทำงานของ นาซี 778 นั้น ก็คือการทำให้ต้นพืชแข็งแรง มีความขยันขันแข็งในการทำงาน เพราะถูก นาซี 778 กระตัน ชักนำให้ตื่นตัว (เหมือนยาโด๊ปก็ว่าได้ แต่เป็นยาโด๊ปที่ไม่มีผลเสียต่อต้นพืช กลับมีแต่ผลดี)

2.ไคโตซาน โอทูฟลาโวเจน สารทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นอาหาร / อาหารเสริมพืช

ไคโตซาน เป็นสารไคติน ที่พบมากในเปลือกกระดองของสัตว์น้ำ ครั้งแรกที่นำมาใช้ประโยชน์ก็คือ เป็นอาหารเสริมสุขภาพในคน ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานโรคสูงขึ้น ต่อมาได้มีการนำมาใช้เป็นสารลดความอ้วน เพราะตัวไคโตซานสามารถดักจับไขมันได้ดี จึงไม่ถูกดูดซึมจากลำไส้ ต่อมาใด้มีการทดลองนำมาใช้ในพืช ปรากฏว่าให้ผลที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ที่มีการผลิตเพื่อขายเพื่อใช้งานทางด้านการเพาะปลูกนั้น มักจะเจือปนไปกับปุ๋ยหมักอินทรีย์ ผลที่เกิดขึ้นจึงมิใช่เกิดจาก ไคโตซานล้วนๆ 

สารไคตินในพืชนั้น เราสามารถมองเห็นได้จากลักษณะภายนอกของต้นพืช คราบที่เกาะตามผิวใบ หรือตามกิ่ง ลำต้น เป็นตัวเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับต้นพืช ทำให้แมลงกัดกินไม่สะดวก เพราะแข็งและลื่น ลดความเสียหายจากการทำลายของแมลงได้ในระดับหนึ่ง

สารไคตินในดินยากแก่การดูดซึม เมื่อมีการให้ทางใบ จึงดูดซับได้ดี นำไปใช้งานได้รวดเร็ว ทำให้พืชเติบโตได้ดี แต่ว่าพืชต้องการจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น และข้อเสียอย่างหนึ่งก็คือ สารไคติน ต้นพืชไม่สามารถเก็บสะสมไว้ใช้ต่อๆไปได้ จึงต้องฉีดพ่นบ่อยครั้ง ซึ่งการฉีดซ้ำๆซากๆ บ่อยครั้ง ได้ก่อให้เกิดผลเสียกับผืนดินที่ใช้เพาะปลูกในเวลาต่อมา เนื่องจากสารไคโตซาน มีคุณสมบัติในการดักจับกับแร่ธาตุต่างๆได้ดี เมื่อส่วนเกินที่ตกลงสู่พื้นดินนานเข้า นานเข้า ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ และทำการเกาะเกี่ยวยึดกับแร่ธาตุสารอาหารในดิน ทำให้พืชดูดซับไม่ได้ ดังนั้นพื้นที่บางแห่งที่ใช้ไคโตซานเป็นเวลานานๆ จะพบปรากฏการณ์ว่า ใช้ไม่ได้ผลดีเหมือนก่อน สาเหตุก็เป็นด้วยเหตุฉะนี้แล

ส่วน โอทูฟลาโนเจน นั้นจากข้อมูลของผลิตภัณฑ์สินค้านั้นไม่ละเอียดชัดเจนเท่าที่ควร เพียงแต่ระบุว่าเป็นอาหารพืชที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกับฮอร์โมน ที่สกัดมาจากพืช 15 ชนิด ที่เรียกชื่อว่า ฟลาโวนอยด์ (แต่สารฟลาโวนอยด์ในพืชนั้นมีมากกว่า 4,000 ชนิด ซึ่งก็มิได้ระบุว่าเป็นตัวไหนบ้าง)

สารฟลาโวนอยด์ ส่วนใหญ่จะมีอยู่ในส่วนที่เป็นสีของผล หรือเมล็ดพืช หรือในพืชผักหลายชนิด แต่ที่มีมากก็คือในใบชา และเมล็ดกาแฟ ทุกวันนี้ได้นำมาผลิตเป็นอาหารเสริมของคน เพื่อสร้างภูมิต้านทาน และรักษาความสมดุลร่างกายของคนเรา ถือเป็นสารแอนตี้ออกซิแด๊นท์ (ต้านอนุมูลอิสระของ ออกซิเจน ที่อาจชักนำให้เกิดเป็นเนื้องอก หรือ มะเร็งได้) และจากการอนุมานประเมินได้ในวงแคบจำกัดลงมาแล้ว โอทูฟลาโวเจนน่าจะเป็นสารฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของ สารฟีโนลิค ที่มีชื่อเรียกว่า โซเดียม ไนโตรฟีโนเลท ที่มีการนำมาใช้ในวงการเกษตร ทั้งการเพาะปลูก และการเลี้ยงสัตว์

แรกเริ่มนั้น ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่นำมาใช้ในการเพาะปลูกในรูปของ ฮอร์โมนพืช (บริษัทเจียไต๋ ได้นำเข้ามาจำหน่ายนานแล้ว แต่ทว่าไม่แพร่หลาย และมีราคาแพง) ต่อมาจีนได้นำมาทำการวิจัยขยายผลออกผลออกไป ปรากฏว่า สารตัวนี้ออกฤทธิ์ได้อย่างกว้างขวางมิใช่แค่ผลทางด้านฮอร์โมนพืชเท่านั้น เมื่อนำไปผสมเข้ากับสารเคมีเกษตรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย แร่ธาตุอาหารเสริม สารป้องกันกำจัดแมลง โรคพืช แล้วทำให้ เคมีเกษตรเหล่านั้นมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นอันมาก 20 – 70 % เลยทีเดียว ดังนั้น สารตัวนี้จึงเป็นตัวลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้ว เมื่อนำไปผสมเข้ากับ สารกำจัดวัชพืชแล้ว ทำให้ประสิทธิภาพของยากำจัดวัชพืชนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ และที่น่าสนใจก็คือ สามารถลดความเป็นพิษของสารกำจัดวัชพืชได้ต่ำลงเอามากๆ แต่ประสิทธิภาพกลับเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นสาร ไนโตรฟีโนเลท ตัวนี้ ยังช่วยปรับความสมดุลของการทำงานภายในของต้นพืชได้อย่างดีอีกด้วย ผลที่ตอบรับก็คือ ทำให้พืชแข็งแรง โตเร็ว เพิ่มผลผลิต ต้านทานโรค แมลง และสภาพแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ ชนิดนี้ ทางห้างได้นำเข้ามาทดสอบแล้ว เมื่อ สี่ปีก่อน แต่ไม่ติดใจนำมาทำตลาด เพราะเมื่อเทียบกับ นาซี 778 แล้ว ผลลัพธ์ยังเทียบเคียงกันไม่ได้ เนื่องจาก นาซี 778 นั้นเป็นสารจากธรรมชาติ ที่ไม่มีพิษ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ผลที่ได้นั้น ครอบคลุมไปเกือบทุกด้าน เรียกได้ว่าเป็นสาร อัศจรรย์ อย่างแท้จริง

ประการสุดท้ายความแตกต่างของ นาซี 778 กับผลิตภัณฑ์สินค้า ไคโตซาน โอทูฟลาโนเจน ก็คือ การตลาด

สินค้าทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวนั้นเป็นระบบจัดจำหน่าย ขายตรงหลายชั้น ที่เน้นถึงผลผลประโยชน์ที่บริษัทฯ และสมาชิกผู้ขายจะได้รับเป็นสำคัญ ดังจะสังเกตเห็นคำขวัญที่ว่า ขายแล้วรวย แต่ไม่ได้เน้นถึงผลประโยชน์ที่เกษตรจะได้รับ ด้วยลักษณะการจัดจำหน่ายขายตรงนี้ ทำให้เกษตรกรต้องซื้อสินค้าในราคาแพงเกินกว่าเหตุ เป็นการเพิ่มต้นต้นโดยไม่จำเป็น บางครั้งตัวเลขยอดขายที่เห็นนั้น มิใช่อุปสงค์ที่แท้จริง เพราะสมาชิกบางคนหวังผลในยอดขาย เพื่ออัปตัวเองให้มีตำแหน่งสูงขึ้น ได้ลงทุนควักกระเป๋าซื้อตุนเอาไว้เอง นี่คือความจริงที่พบเห็นได้ทั่วไป

(ที่ประเทศ มาเลย์เชีย ระบบขายตรงไม่ประสบความสำเร็จเหมือนบ้านเรา เพราะประชาชนเขาฉลาดกว่าคนบ้านเรา อีกทั้งทางการก็ไม่อนุญาตให้สินค้าการเกษตรเข้าสู่ระบบขายตรงนี้ด้วย คงมีแต่บ้านเราเท่านั้น ที่อะไรก็เป็นไปได้ แบบ อันซีนไทยแลนด์ นั่นแหละ)

ส่วนผลิตภัณฑ์ นาซี 778 นั้น คำนึงถึงผลประโยชน์ที่เกษตรกรควรได้รับ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง โดยพยายามปรับราคาขายให้ถูกลง เพื่อเกษตรกรจะได้ซื้อหาไปใช้ได้อย่างทั่วถึง   

ทุกวันนี้การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นปัจจัยการผลิตพืชนั้น ไม่ว่าจะเป็นพืชสวน พืชไร่ พืชผัก ล้วนแต่มีการแข่งขันที่ดุเดือดและเข้มข้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเคมีอนินทรีย์ อย่างปุ๋ย ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเม็ด หรือปุ๋ยน้ำที่ให้ทางใบ ธาตุอาหารเสริมหลากหลายชนิด รวมทั้งฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต การแตกราก การออกดอก และขยายผลเพิ่มสีต่างๆนาๆ รวมทั้งเคมีเกษตรอื่นๆที่ใช้ในการอารักขาพืชจำพวก ป้องกัน - กำจัด โรคและแมลง กำจัดวัชพืชต่างๆ ซึ่งการแข่งขันนั้นทำให้ต้องมีการแย่งชิงกันขายในท้องตลาด ซึ่งมีอยู่ค่อนข้างตายตัว (แต่ก็มีขนาดเล็กลงทุกวัน เนื่องจากพื้นที่ทำการเกษตรได้ถูกนำไปใช้งานอย่างอื่นแทน อย่างที่อยู่อาศัย ถนนหนทาง โรงงานเป็นต้น) แต่บริษัทร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าต้นทุนการผลิตเหล่านี้กลับมีเพิ่มขึ้น (เนื่องจากให้ผลกำไรดี) จึงเกิดการแข่งขันกันขึ้นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ วิธีการที่ได้ผลค่อนข้างดีก็คือ การโฆษณาผลิตภัณฑ์สินค้า ไม่ว่าจะเป็นสื่อทางโทรทัศน์ (ซึ่งได้ผลดีที่สุด แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุด ตรงนี้บริษัทใหญ่ๆที่มีเงินทุนหนาย่อมได้เปรียบมากกว่าเป็นธรรมดา) สื่อวิทยุ สื่อหนังสือต่างๆ และที่ใช้กันมากก็คือ หนังสือทางด้านการเกษตรที่เราเห็นกันเกลื่อนบนแผงหนังสือ เมื่อเกิดการแข่งขันกันหนักข้อขึ้น บางบริษัทจึงหาทางการทำตลาดที่ฉีกแนวทางเดิมๆออกไป เป็นการขายตรง (หลายชั้น) และตั้งทีมนักวิชาการออกไปแนะแนวทางในการเพาะปลูกอย่างถึงลูกถึงคน มีการเสนอแนะการใช้ยาเคมีเป็นชุดๆ เหมือนยาชุดในคนเลยทีเดียว ซึ่งในแนวทางทั้งสองนั้น บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ล้มเหลว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่นเงินทุน วิธีการ และที่สำคัญก็คือ คุณภาพ-ประสิทธิภาพของตัวสินค้าเอง 

การแข่งขันการทำโฆษณานั้น ส่วนมากที่เห็นๆนั้นมักจะโฆษณาอวดอ้างเกินความเป็นจริง (ที่ไม่มีทางเป็นไปได้) และอ้างอิงถึงเทคนิคใหม่ที่ก้าวหน้าทันสมัย อย่างเช่นนาโนเทค ซึ่งดูจากบทความโฆษณาแล้ว แม้แต่ความเข้าใจพื้นฐานก็ยังไม่มีเอาเสียเลย (อย่างเช่นเป็นผลิตภัณฑ์นาโน) หรือบางแห่งก็คัดลอกเอาเนื้อหาจากผลิตภัณฑ์บริษัทอื่นๆมาใช้ก็มีถมไป และแนวทางหนึ่งที่นำมาใช้ทำโฆษณากันก็คือ การเปรียบเทียบผลผลิตระหว่างพืชที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ กับที่ที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงเอาเสียเลย เช่นเอารูปผลผลิตที่มีขนาดใหญ่เอามากๆมาเปรียบเทียบกับรูปที่มีขนาดเล็กกว่ากันอย่างหน้ามือกับหลังมือ บางแห่งก็ใช้ภาพถ่ายโคลสอัป (ถ่ายใกล้ๆ) มาเปรียเทียบกับภาพที่ถ่ายระยะไกล ทำให้เห็นขนาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งการเปรียเทียบเช่นนี้ไม่มีความชัดเจนทางหลักวิชาการเลยแม้แต่กระผีกหนึ่ง ซึ่งการเปรียเทียบนั้นต้องกระทำในฤดูกาลเพาะปลูกเดียวกัน สายพันธุ์เดียวกัน และในพื้นที่เดียวกัน แยกแยะเป็น 2 ส่วน หลายๆซ้ำ ผลที่ออกมาจึงสรุปได้ชัดเจนว่า มีความแตกต่างกันแค่ไหน มากน้อยเท่าไร และที่สำคัญก็คือ เมื่อผลผลิตดีกว่า มากกว่าแล้ว ก็หาใช่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีเหมาะสมที่สุดหรือไม่ สิ่งที่มีส่วนสำคัญต่อการผลิตก็คือ ต้นทุน ที่ใช้นั่นเอง ถ้าต้นทุนสูง ผลิตสูงกว่า ก็หาได้เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างแท้จริงไม่ 

หากจะสรุปให้เข้าใจอย่างเป็นรูปธรรมก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้น สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากในระดับหนึ่งแล้ว ต้องสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ด้วย พร้อมกับคุณภาพที่ดีด้วย แต่เป็นที่น่าเศร้าใจก็คือ เกษตรกรไทยเราขาดความรู้ที่ลึกซึ้ง ขาดการวิเคราะห์ที่เป็นลำดับขั้นตอน จึงตกเป็นเบี้ยล่างอยู่ตลอดเรื่อยมา ไม่มีโอกาสเงิยหน้าสู้ฟ้าได้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้นกล่าวได้ว่าเกษตรกรไม่ได้รับการเหลียวแลจากทางภาครัฐอย่างแท้จริง ชีวิตความเป็นอยู่จึงมีแต่ทรุดกับโทรมอยู่ร่ำไป

ที่กล่าวมานี้ เป็นการเตือนสติเกษตรกรทั้งหลายจงได้คิดใคร่ครวญให้รอบคอบในการเลือกลงทุนใช้ปัจจัยต้นทุนการผลิตที่กล่าวมาทั้งหมด หากมีหนทางเลือกแล้ว ลองหันมาใช้ นาซี 778 ดู กล่าวกล่าวอ้างของผลิตภัณฑ์ที่โฆษณานั้น ยังมีมากกว่านั้นนัก หากแต่เกรงว่าบอกกล่าวมามากกว่านั้นแล้ว จะพาลไม่เชื่อเอาดื้อๆไปเลย เข้าทำนอง โฆษณา "โอเวอร์" นั่นแหละ 

ขอบคุณครับ สำหรับคำตอบนี้  ทำให้ผมตัดสินใจในการที่จะใช้ นาซี 778  ถึงแม้ว่านาซี 778 จะนำเข้ามาจากจีน แต่ผู้นำเข้าก็มีคุณธรรม

ความจริงใจต่อเกษตรกร  ที่จะให้เกษตรกรได้ใช้ นวตกรรมใหม่ๆ ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค เมื่อต้นทุนลดก็ลดราคาให้ผู้บริโภค  นาซี 778 นำเข้ามา

หลายปีแล้ว ตามหลักของสินค้ามีแต่ราคาจะเพิ่มขึ้น ส่วนสินค้า่อีกตัวซึ่งเกิดจากการวิจัยของคนไทยแท้ๆ แต่มีราคาสูงมากตั้งแต่เกิดเลย ถึงแม้ว่า

สินค้าจะใช้ในปริมาณน้อยก็จริง แต่ปันผลไปอยู่ในรูปขายตรง ยังไงก็ปีรามิด 

ใครจะว่าอย่างไรผมไม่สน แต่ที่แน่ๆผมได้ลองใช้ นาซี778แล้ว

เห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนครับ จึงตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ต่อไปครับ

และอยากเตือนพี่น้องชาวเกษตรกรด้วยกัน ว่าถ้าจะตัดสินใจซื้อเมล็ดพันธุ์หรือต้นกล้าพริกพิโรธ(หรือพริกร้อยครก)จาก

คุณสุชาติ เกิดม่วง ที่จังหวัดลพบุรีแล้วละก็ ขอเตือนว่าคนๆนี้ หลอกขายต้นกล้าพริกเท่านั้น

คำว่าประกันราคานั้น เป็นแต่เพียงลมปากเท่านั้น ผมกับเพื่อนๆอีกหลายคน หลงกลอย่างจัง เมื่อมีสินค้าปรากฏว่า โทรติดต่อไม่ได้เลย

ส่งสินค้าน้อยมีการโอนเงินให้ แต่เมื่อส่งมากขึ้นก็อ้างโน่นอ้างนี้ เช่น พริกเน่าเยอะ,พร้อมส่งสัญญาต่างๆมา เช่นว่าเราไม่สามารถส่งสินค้าตามที่กำหนดไว้ รายละเอียดอีักมากมาย แต่เวลาที่เราซื้อเมล็ดพันธุ์บอกว่าจะมาทำสัญญา ก็ไม่เห็นโผล่หัวมาให้เห็น พอถึงเวลาก็บอกว่าถ้าไม่สามารถทำตามสัญญา  นี่แหละคือเหตุผลที่อยากเตือนพี่น้องที่อยากลองทำการปลูกอะไรสักอย่าง ที่มีพ่อค้า นายทุนบอกว่าประกันราคา ให้เท่านี้เท่านั้น

จงระมัดระวังศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป

ปล.ผมมีพริกแห้ง ต้นกล้า และเมล็ดพันธุ์ ชนิดนี้ขายถ้าสนใจ ติดต่อ 0819605686 ราคาคุยกันได้ครับ

ปล. ผมเป็นอีกคนที่สนับสนุน ทางนาซี778 ครับ เพราะเคยซื้อนาซีมาใช้ทีนึงแล้วครับ แล้วต้องบอกว่าของเค้าดีจริงๆ ผมซื้อมาใช้เกี่ยวกับนาครับ ซื้อเมื่อต้นปี53 แล้วปีนี้ก็จะซื้ออีกครับ ผมให้ขอสังเกตุง่ายๆครับ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ ราคาส่วนมากจะไม่ค่อยมีการปรับลดลงมาครับ หลังจากที่ออกจำหน่ายไปแล้วหรือมีการปรับก็ลดลงมาไม่กี่% แต่ทางนาซีไม่ใช่ครับ

นาซี778 เป็นดฮอโมนพืชที่สกัดมาจากพืชส่วนหนึ่งแล้ว รวมกับฮอโมนสังเคราะห์ที่เป็นเคมี

อยากทราบว่า คุณ w ทราบได้อย่างไร และ เอาข้อมูลมาจากไหน มีหลักฐานมายืนยันหรือไม่

ถ้าอยากทราบว่า นาซี 778 มีเคมีหรือปล่าว รบกวนคุณ w มาที่ออฟฟิส แล้วจะดื่มให้ดูค่ะ

คุณ w ไม่ใช่ผู้คิดค้น และไม่ใช่ผู้นำเข้าจัดจำหน่าย แต่มาแสดงความเห็นที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นความจริงแบบนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องนะค่ะ

เรียนคุณ W ที่รัก

ผมไม่เข้าใจในเจตนาของคุณ W ในการโพสคำตอบดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเจตนาดี หรือ ไม่ดี นั่นไม่ใช่ประเด็น ซึ่งเราไม่ให้ความสำคัญอยู่แล้ว แต่ที่เราเป็นห่วงก็คือ ตัวคุณ W ที่ได้แสดงความเขลาเบาปัญญาของตัวเองให้ปรากฏกับผู้ที่ได้เข้ามาเปิดอ่านกระทู้นี้

ประการแรก คุณ W ไม่ใช่ผู้วิจัย หรือเป็นผู้ผลิต นาซี 778 . ประการที่สอง คุณ W ก็มิใช่ผู้สั่งนำเข้า หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ นาซี 778 นี้. และประการสุดท้าย คุณ W ก็มิได้เป็นนักวิชาการ หรือเป็นด๊อกเตอร์สาขาใดไหนๆ (เพราะไม่มีการแนะนำตัวเองแต่อย่างใด แล้วคุณจะเครดิตที่ไหนมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้) ซึ่งสรุปแล้ว คุณ W ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ นาซี 778 แต่อย่างใดแม้แต่น้อย แล้วคุณ W ไปเอาข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน ?

เว็บบอร์ดของเรา เป็นเว็บบอร์ดที่นำเสนอความจริง ตอบกระทู้ที่อิงหลักวิชาการ มิใช่เป็นเว็บบอร์ดที่ปลดปล่อยอารมณ์ สนุกสนาน เอามันโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมา

ถ้าคุณ W เสนอความคิดเห็นโดยมีหลักฐานอ้างอิง เราก็ยินดีให้ทำการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตลอดเวลา ฉะนั้น เราจะคงกระทู้ตอบของคุณ W เอาไว้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ความจริง ย่อมเป็นความจริง ซึ่งถ้าเราลบกระทู้ตอบไปแล้ว ผู้อ่านอาจจะเข้าใจผิดว่า เราหลอกลวงเกษตรกรทั่ซทั้งประเทศ คำตอบกระทู้ที่ไม่มีมูลความจริง เรายอมปล่อยวางไม่ได้ เพราะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้แก่เรา ผู้จัดจำหน่าย นาซี 778

ขอได้โปรดเข้าใจในเจตนาของเราด้วย

ด้วยรัก