ขอขอบคุณในคำอวยพรเป็นอย่างยิ่ง

เป็นหน้าที่ที่ต้องให้ความกระจ่างแจ้งแก่ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราไปใช้ เพื่อความถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับเกษตรกรและผู้ใช้ที่ควรจะได้รับ

การใช้ นาซี กับไม้ยืนต้น ไม่ว่าจะเป็นไม้สวนป่า (ยูคาฯ สัก สน สะเดาฯ กระถินฯ ตะกู ฯลฯ) หรือไม้ผลทุกชนิด มีหลักและวิธีการใช้เหมือนๆกัน นั่นก็คือ ใช้ ปีละ 2 ถึง 4 ครั้ง (2 ครั้งก็ให้ผลที่น่าพอใจ แต่ให้ผลดีที่สุดก็คือ 4 ครั้ง) โดยใช้อัตราส่วน นาซีฯ 1 ส่วน ต่อน้ำ 60 - 80 ส่วน ในการฉีดพ่นให้ทางใบ ส่วนการราดรดให้ทางรากนั้น เจือจางในอัตราส่วน 1 ต่อ 120 - 150 ปริมาณที่ราราดรดให้นั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นพืช ต้นขนาด 30 - 50 ซม. เริ่มตั้งแต่ ต้นละ 100 ซีซี . และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆตามอายุ จนกระทั่งสูงสุด 4 ลิตร ต่อต้น สำหรับไม้ปลูกป่านั้นใช้ได้ตลอดเวลา แต่สำหรับไม้ผล ควรเลี่ยงในระยะที่ติดดอกเต็มที่

เป็นที่น่าเสียดายที่มีเกษตรกรจำนวนมากที่เข้าใจผิดในคำโฆษณาของเรา ที่เข้าใจว่า คำกล่างอ้างถึงสรรพคุณ และประสิทธิภาพของ นาซี 778 นั้น เป็นการโฆษณากล่าวเกินความจริง จึงปฏิเสธที่จะซื้อไปใช้ แม้แต่จะลองซื้อใช้ซักครั้งให้ประจักร์กับสายตาว่า เป็นความจริง หรือ โกหก ก็ไม่สนใจที่จะทดลอง จึงทำให้เสียโอกาสที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า มีคุณประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพเพาะปลูกเป็นอย่างยิ่ง

แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ตำหนิกันไม่ได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ นาซี 778 นั้น เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังขาดความเข้าใจกันอยู่ และยังคงเข้าใจกันตามหลักการเก่าๆที่ว่า การเพาะปลูกพืชให้ได้ผลดีนั้น ต้องใส่ปุ๋ยให้มากเข้าไว้ ใช้ฮอร์โมน แร่ธาตุ-อาหารเสริมเพิ่มเติมเข้าไว้ จึงจะทำให้พืชเจริญเติบโตได้เร็ว ให้ผลผลิตได้สูง ซึ่งความจริงแล้ว ปัจจัยเหล่านี้นั้นมีอยู่พร้อมมูลแล้วในดิน หากแต่ว่าต้นพืชยังได้รับพลังงาน (แสงแดด) ไม่เพียงพอต่อการดำเนินกิจกรรมชีวเคมีภายในอันที่จะดูดซับมาใช้ประโยชน์ใด้เต็มที่เท่านั้น

มีลูกค้าจำนวนมากทีเดียว ที่ใช้ นาซีฯ กับพืชที่ปลูกโดยไม่ใส่ปุ๋ย ไม่ใช้อาหารเสริมเลย แต่กลับเติบโตดี ให้ผลผลิตมากกว่า เกษตรกรที่อัดปุ๋ย และอื่นๆ ให้เต็มที่ (ต้นทุนสูงจนอาจไม่คุ้มค่า) นั่นย่อมเป็นการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า พลังงาน (แสงแดด) นั้นมีบทบาทสูงเป็นอย่างยิ่งในการเจริญเติบโต ให้ผลผลิต และสร้างภูมิต้านทานต่อโรค- แมลง ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนเปลี่ยนแปลงไป

ตอ – อะ – ตะ – กอ – อู – กู    =   ตะกู
ไม้ป่าหลากหลายประโยชน์ใช้สอย

 http://www.thaisakluangwood.co.th

Thaisakluangwood  Co.,Ltd.
บริษัท ไม้สักหลวงไทย จำกัด 349 หมู่ที่ 12 ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 30150
บริษัท  ไม้สักหลวงไทย จำกัด สนับสนุนการปลูกตะกูก้านแดง เนื่องจากสถานการณ์การขาดแคลนไม้ในปัจจุบันทั้งในเมืองไทยและตลาดโลกทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุมาจากการใช้ไม้จำนวนมหาศาลของประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการตัดไม้ธรรมชาติเพื่อนำมาสนองความต้องการ จนเมื่อมาถึงจุดวิกฤติ หลายประเทศได้มีการห้ามตัดไม้ธรรมชาติเพื่อนำมาใช้งาน ทางออกของการแก้ปัญหาที่จะตอบสนองความต้องการจำนวนมหาศาลเหล่านี้จึงมีอยู่ทางเดียวคือการปลูกไม้ขึ้นเองเพื่อใช้งาน จึงมีการศึกษาและเสาะแสวงหาพันธุ์ไม้โตเร็วที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตได้ดี ที่เหมาะกับภูมิประเทศและสภาพอากาศในประเทศนั้นๆ โดยเนื้อไม้ต้องสามารถตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจได้ ต้นตะกูจึงได้กลายมาเป็นไม้เศรษฐกิจที่ควรปลูก  ตะกูเป็นไม้ที่ทางกรมป่าไม้จัดอยู่ในประเภท  ไม้โตเร็วมากและสามารถเติบโตได้ดีในหลายสภาพดินฟ้าอากาศ ไม้ตะกูเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง เนื้อละเอียดสีเหลืองนวล แข็งแรง น้ำหนักเบา มีคุณสมบัติป้องกันแมลง , มอด, ปลวก จะเลื่อย เจาะ ไส กลึงหรือขัดเงาก็ทำได้ง่าย ใช้ประโยชน์ในการทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ ตู้โต๊ะเตียง ไม้อัดกรอบ และ  บานหน้าต่าง  นอกจากนี้ไม้ตะกูยังสามารถนำมาทำเยื่อกระดาษ และใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าย่อม Biomass ได้อีกด้วย
ข่าวดีสำหรับผู้สนใจปลูกตะกูก้านแดงทุกภาค ทางเรารับจองสิทธิเพื่อวางแผนการผลิตต้นกล้าให้แก่ท่าน ทันที สนใจปรึกษาได้ที่  คุณกิตติศักดิ์  086 – 0480854
E – mail  : thaisakluangwood@gmail.com

การตัดสินใจจะปลูกไม้โตเร็วนั้น ควรทำการค้นหาข้อมูลในหลายๆมิติ เกี่ยวกับพันธุ์ไม้ ลักษณะและคุณสมบัติของเนื้อไม้ การใช้งาน การจัดการดูแลในการปลูก โดยเฉพาะอย่างงยิ่ง ตลาดที่จะรับซื้อไม้ ถ้าปลูกแล้วไม่มีตลาด ขายไม่ได้ ก็คงไม่สร้างรายได้ให้เกิดขึ้น เท่าที่ผ่านมา การประการเชิญชวนให้ปลูกไม้โตเร็วทางเศรษฐกิจนั้น ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ส่วนใหญ่เป็นการขายกล้าไม้เสียมากกว่า หลังจากนั้นก็ให้ผู้ปลูกเผชิญกับชะตากรรมกันเอาเอง อย่างเช่นไม้ เพาโลเนียที่เคยฮือฮากัน แต่ปรากฏว่าเป็นการหลอกลวงตั้งแต่ต้นพันธุ์ เพราะการขยายพันธุ์นั้นมิได้ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดแต่อย่างใด แต่ใช้รากเหง้า เหมือนต้นสัก หาไม่แล้วเมล็ดที่ได้จากการเพาะเมล็ดนั้นจะโตไม่ได้ดี และเท่าที่ปลูกกันในบ้านเรานั้นก็กลายเป็นไม้แคระไปแล้ว เนื่องจากเป็นไม้เมืองหนาวที่ไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา หมดตัวกันถ้วนทั่ว และตะกูยักษ์ที่ฮือฮากันก็อีหรอบเดียวกัน ตอนที่ขายกล้าก็ชักชวน การันตี รับซื้อคืนในราคาสูง แต่พอ"ด้เวลาตัดขายก็บ่ายเบี่ยง หนีหน้า จนเกิดการฟ้องร้องที่เห็นเป็นข่าวเร็วๆนี้นี้แหละ ถ้าต้องการปลูกไม้โตเร็วแล้ว เอาไม้ในบ้านรานี่แหละ อย่างสะเดาช้าง มะฮอกกานี สน มีตลาดรับซื้อแน่นอน