มะละกอเป็นพืชกลัวน้ำ นั่นก็คือ ไม่ทนต่อน้ำท่วมขัง หากฝนตกหนักน้ำขัง 5 - 10 วัน โอกาสที่จะรอดชีวิตนั้นค่อนข้างริบหรี่ ดังนั้นการปลูกมะละกอจึงต้องพิถีพิถันเลือกพื้นที่ปลูกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการระบายน้ำต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิถาพ อย่าให้น้ำขังเป็นเวลานานเกินกว่า 3 วัน ด้วยมะละกอเป็นพืชระบบรากตื้น เมื่อดินอุมน้ำมากจะทำให้ดินอ่อนนุ่ม โอกาศต้นล้มโค่นมีมาก โดยเฉพาะต้นที่ติดผลดก เนื่องจากน้ำหนักส่วนบนมากกว่าส่วนล่างที่เป็นฐาน ดังนั้นการปลูกมะละกอในบ้านเราจึงมีการปลูกมากในภาคอิสาน รองลงมาก็คือภาคเหนือ ภาคกลาง ส่วนภาคใต้จะปลูกกันน้อย เนื่องจากฝนชุก การแก้ปัญหาต้นล้ม รากเน่าจากน้ำท่วมขังก็คือ เลือกพื้นที่ลาดชัน หรือไม่ก็ปลูกในขอบบ่อ ซึ่งสามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ดี ทำให้ติดผลดก (มะละกอไม่ชอบน้ำก็จริง แต่ถ้าน้ำไม่เพียงพอก็ไม่ใคร่ติดลูกด้วยเช่นกัน)
สาเหตุที่มะละกอไม่ทนน้ำ ก็คงเป็นเพราะการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ ยีนทนน้ำที่สามารถดูดซับออกซิเจนในน้ำพักการทำงาน ดังนั้นการที่จะทำให้มะละกอทนต่อน้ำท่วมขังได้นานกว่าปกติก็คือการกระตุ้นยีนทนน้ำให้ฟื้นคืนมาทำงาน หนทางที่เป็นไปได้ง่ายๆก็คือการใช้ นาซี 778 ช่วยในการเพาะปลูก แต้ต้องเป็นการใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ เริ่มปลูกตั้งแต่ต้น (แช่เมล็ด หรือฉีดพ่นทางใบขณะเป็นต้นกล้า รดลงดินให้ทางราก) ถ้าใช้เมื่อต้นเติบใหญ่ ให้ผลผลิตแล้ว คงช่วยได้ไม่ทัน เพราะการทำงานต้องใช้เวลาพอสมควร
การให้นาซี 778 แก่ต้นพืชที่ปลูก ไม่ว่าจะเป็นพืชชนิดไหนก็ตาม สามารถลดความเสี่ยงจากการเสียหายได้หลายๆกรณี ไม่ว่าจะกระทบแล้ง น้ำท่วมขัง ประสบกับการระบาดของโรค หรือแมลง ก็สามารถบรรเทาได้ในระดับที่คุ้มค่าน่าพอใจ ทำให้โอการหมดตัวเพราะพืชที่ปลูกเสียหายล้มตายไปตามสามารถที่กล่าวมาแล้ว ดังนั้นมีเกษตรกรมากราย เมื่อได้ทราบราคาขายของ นาซี 778 แล้ว มักจะบอกว่า ราคาแพง ซึ่งเป็นการคำนวณเฉพาะหน้า หาได้มองถึงการณ์ไกลเบื้องหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้
ผลของนาซี 778 นั้น ครอบคุมไปเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการเจริญเติบโต ให้ผลผลิตสูง คุณภาพเป็นเลิศ ทนทานต่อโรค-แมลง น้ำท่วมขัง ความแห้งแล้ง ฯลฯ ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ใคร่เชื่อ และไม่ศรั?ต่อต่อผลิตภัณฑ์ อันเป็นสารสมุนไพรตัวนี้ ผู้ที่เชื่อ ผู้ที่กล้าทดลองใช้เท่านั้นที่จะได้รับผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์จาก เทคโนโลยี ชักนำพันธูกรรมพืช นาซี 778 |