เรียนคุณโคนัน

ก่อนที่จะเลือกปลูกพืชชนิดใด ควรศึกษาถึงธรรมชาติของพืชชนิดนั้นๆ และทำความเข้าใจถึงอุปนิสสัยของมันล่วงหน้า ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

มะละกอเป็นพืชระบบรากตื้น ไม่ชอบน้ำขัง (ระบายน้ำไม่ดี) ซึ่งถ้าปลูกในพื้นที่ๆฝนชุก จะเกิดปัญหารากเน่า ต้นโค่นล้ม โดยเฉพาะต้นที่ให้ผลดก โดยน้ำหนักผลจะเป็นตัวถ่วงให้เอียงต้นเอนเอียง และล้มไปในที่สุด ดังนั้นการเลือกพื้นที่ปลูกควรเลือกพื้นที่ลาดเอียง เพื่อลดการอุ้มน้ำของหน้าดิน ทำให้ดินชุ่มฉ่ำ อันเป็นสาเหตุก่อเกิดความเสียหายกับต้นมะละกอได้ การแก้ปัญหาดังกล่าวสามาารถป้องกันได้  โดยการปลูกในวงขอบบ่อปูนหรือเข่งพลาสติกที่ทนต่อแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถควบคุมความชื้นในดินได้

การใช้ นาซี 778 กับมะละกอนั้น หากเป็นไปได้ ให้แช่เมล็ดมะละกอก่อนทำการเพาะเมล็ด เพื่อสร้างความแข็งแก่งให้เกิดขึ้นขณะที่ยังเป็นเมล็ด จากการสร้างภูมิต้านทานโรคที่อาจติดมากับเมล็ด โดยเฉพาะโรคใบด่างวงแหวนที่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งจะทำความเสียหายแสนสาหัสเมื่อเกิดการระบาดขึ้น แต่ถ้าเป็นการซื้อต้นกล้ามาปลูก ก็ให้ใช้ นาซีฯ ราดรดต้นกล้าทันทีที่นำต้นกล้าเข้าพื้นที่ปลูก เมื่ออนุบาลต้นกล้าแข็งแรงดีแล้ว ก่อนนำลงปลูกก็ให้ราดรดด้วย นาซีฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ให้ใช้นาซีฯ ฉีดพ่นเดือนละครั้งในกรณีที่มีการระบาดของโรคมาก่อน แต่ถ้าพื้นที่นั้นไม่เคยมีปัญหาของโรคใบด่างวงแหวน ก็ให้ฉีดพ่นสอง หรือ สามเดือนครั้ง โอกาสที่จะเกิดโรคชนิดนี้แทบจะไม่มี

ในกรณีที่ต้นมะละกอเกิดโรคแล้ว สามารถรักษาให้หายได้ โดยการฉีดพ่่นทางใบพร้อมกับให้ทางรากด้วย เดือนละครั้ง ก็จะทำให้หายขาดจากโรคได้ และควรเข้าใจด้วยว่า นาซี 778 ไม่ใช่ยารักษาโรค แต่เป็นสารที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค เมื่อพืชมีภูมิต้านทานแล้ว โอกาสที่จะเ็นโรคก็ลดน้อยจนแทบจะไม่มี ดังนั้น นาซี 778 จึงเป็นสารที่ใช้ป้องกันและรักษาโรคใบด่างวงแหวนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในปัจจุบัน

ส่วนโรครากเน่านั้นมีสาเหตุจากรากขาดอากาศหายใจ (อ่อนไหวต่อน้ำขัง) ซึ่งแม้ใช้นาซีฯ ก็ไม่อาจช่วยได้

เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า นาซี 778 รักษาโรคใบด่างวงแหวนในมะละกอให้หายขาดได้ เพราะเห็นว่าเป็นแค่สารสมุนไพร ซึ่งเป็นมุมมองที่คับแคบไป