เรียน คุณสุวิทย์ที่เคารพ

                         ไม่ทราบว่าผมจะรบกวนคุณสุวิทย์มากเกินไปหรือเปล่า  ผมรอคุณสุวิทย์ตอบกระทู้มาเกือบ 3 อาทิตย์แล้วครับ  ผมลงมือราดรดหน้ายาง โคนยางมา 3 วันแล้วครับ  เพราะรอคำแนะนำจากคุณสุวิทย์ไม่ไหว  ตอนนี้ผมต้องแข่งกับเวลาแล้วครับ  เพราะใบยางใกล้จะผลัดใบแล้ว 

                          ผมเสียเวลา เสียโอกาสในการทำงาน  ถ้าผมตัดสินใจลงมือราดรดหน้ายาง โคนยาง  โดยที่ไม่รอคำแนะนำจากคุณสุวิทย์  วันนี้ผมคงราดรดนาซีเสร็จไปแล้ว  ต้นยางของผมคงได้ซึมซับนาซีแล้ว  ผมไม่มีความสามารถจะตรัสรู้ได้หรอกครับว่าทำไมคุณสุวิทย์ถึงไม่ตอบกระทู้  หรืออาจจะเป็นว่าคุณสุวิทย์ไม่สบาย  ถ้าเป็นอย่างนั้นผมขอให้คุณสุวิทย์หายจากอาการป่วยไข้โดยเร็วนะครับ  ถ้าเป็นเหตุผลอื่นผมก็คงจะไม่สามารถคาดเดาได้  ว่าทำไมคุณสุวิทย์จึงไม่ตอบกระทู้ของผม

                           ฝากถึงคุณadmin  ผู้ดูแลเว็บด้วยนะครับ  ผมคาดว่าคุณadmin คงจะทราบนะครับว่าคุณสุวิทย์  มีเหตุขัดข้องอะไรจึงไม่ได้ตอบกระทู้  (หรือว่าคุณadmin  อาจจะไม่ทราบเหมือนผมก็ได้)  เมื่อคุณสุวิทย์ไม่สามารถตอบกระทู้ได้  ผมจึงอยากจะขอรบกวนคุณadmin  กรุณาโพสท์ข้อความแสดงความคิดเห็นในกระทู้ด้วยครับ  เพื่อที่ผู้ที่ตั้งกระทู้จะได้ทราบสาเหตุที่คุณสุวิทย์ไม่สามารถตอบกระทู้ได้ครับ   ขอบพระคุณคุณadmin ล่วงหน้าครับ

                            ก่อนที่ผมจะใช้นาซี  ผมใช้ผลิตภัณฑ์อื่นมาพอสมควรครับ  อย่างอีเรเซอร์วัน-พาร์ทเวย์  ของบริษัทออร์กาเนลล์ไลฟ์ (www.organellelife.com)  ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ใช้ผสมน้ำแล้วสเปรย์ใส่หน้ายาง  ผลที่ได้คือหน้ายางนิ่มขึ้น  เปอร์เซ็นต์น้ำยางเพิ่มขึ้นครับ   นอกจากนี้ยังมีปุ๋ยน้ำทีเอฟ (www.tfac.co.th)  ผมใช้ปุ๋ยน้ำร่วมกับอีเรเซอร์วัน-พาร์ทเวย์  ผมรู้จักนาซีจากการแนะนำของคุณนิอามัด  สาเมาะ  ตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยน้ำทีเอฟครับ   คุณนิอามัดบอกว่าลูกค้าใช้นาซีกับพวกพึชแล้วสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ทำพันธุ์   โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าเมล็ดพันธุ์ในการปลูกพืชรอบต่อไป 

                             นอกจากนี้ยังมี โอทู ฟลาโวเจน  ซึ่งก็ถือว่าได้ผลดีพอสมควรครับ  ผมอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิด  เรื่องต้นทุนผมไม่เคยคิดครับ(ปวดหัว)  อะไรที่ผมใช้แล้วรู้สึกดีผมใช้หมดครับ  รวมถึงนาซีที่ผมกำลังใช้อยู่ด้วยครับ  อย่างที่ได้เรียนให้คุณสุวิทย์ทราบ  ต้นยางของผมใช้การอัดแก๊สเพื่อเพิ่มผลผลิต  ในเมื่อผมใช้วิธีพิเศษ  การดูแลต้นยางของผมจึงต้องดูแลเป็นพิเศษเช่นกันครับ

                              ผมรบกวนเวลาคุณสุวิทย์มาพอสมควรแล้วครับ  ต่อไปคงจะไม่ตั้งกระทู้รบกวนคุณสุวิทย์อีก  ขอบพระคุณคุณสุวิทย์ที่ได้กรุณาตอบกระทู้หรือไม่ได้ตอบกระทู้  และผมก็ยังขอยืนยันว่าจะใช้นาซีต่อไปครับ  เพื่อที่ต้นยางของผมจะได้แข็งแรงพอที่จะสู้กับโรคใบร่วงเขียวในปีต่อไปครับ

ตอบคุณวัฒน์

ขออภัยด้วยที่ไม่ได้ตอบกระทู้คุณวัฒน์ทันทีทันใด เพราะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ได้ป่วยไข้อะไรที่ไหนดอก

จากที่คุณวัฒน์ได้บอกกล่าวถึงการสรรหาผลิตภัณฑ์ต่างๆนาๆมาใช้กับต้นไม้ที่ปลูก โฆษณาไหนว่าดี ราคาไม่เกี่ยง ขอให้ดีเป็นพอ ก็จะซื้อหามาใช้ เข้าใจว่า มีเกษตรกรที่มีทุนทรัพย์เพียงพอ และสนใจในผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆหลายๆท่านทีเดียว ที่มีแนวคิดเยี่ยงนี้ ก็ถือว่ามีความคิดก้าวหน้า กล้าเสี่ยง ซึ่งจะทำให้การเพาะปลูกนั้น มีการพัฒนาที่ดีขึ้น ดีขึ้น

และ ณ.ที่นี้ อยากจะบอกกล่าวความจริงให้ได้รับทราบกัน ผมชอบสรรหาสิ่งใหม่ๆ สิ่งดีดี เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการแขนงไหน ล้วนแต่เร้าใจ จูงใจให้ไฝ่รู้ ไฝ่หามาประดับสมองเป็นสติปัญญาติดกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาการทางด้านการเกษตร (เพราะผมจบเกษตรมา และไม่ใช่ทางเพาะปลูกพืช ทว่าเป็นการเลี้ยงสัตว์ แต่ชอบปลูกต้นไม้มากกว่า)

อาชีพหลักผมนั้น เปิดร้านขายสินค้าต้นทุนการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเคมีเกษตร เมล็ดพันธุ์ ลูกเป็ดลูกไก่ อาหารสัตว์ ยา เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย หรือแม้แต่ปลูกผัก ทำสวน เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ แพะแกะ ลองมาแล้วเกือบทั้งนั้น พูดได้ว่าสัมผัสรอบรู้ไม่อายใคร แม้จะทำแล้วขาดทุน (เพราะดันไปทำเอาไม่ตรงกับกาลเวลาที่บูม) เข้าใจปัญหาต่างๆได้ค่อนข้างลึกซึ้ง

จึ่งมีความคิดที่ว่า มีหนทางใดบ้างนะ ที่จะทำให้การเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ เป็นเรื่องง่ายๆ มียาดีๆที่นำมาใช้กับพืชที่ปลูก หรือสัตว์ที่เลี้ยง แล้วทำให้พืชที่ปลูกโตเร็ว ให้ผลผลิตสูง ต้นทุนต่ำ กำไรมาก เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ แล้วไม่เป็นโรคตาย โดยที่ลดการพึงพายสเคมีให้น้อยที่สุด นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมต้องกระโจนเข้าสู่ ร่างแหของข้อมูลความรู้ นั่นก็คือ อินเตอร์เน็ต ผมไม่เคยเรียนใช้คอมพิวเตอร์ ไม่เคยเรียนการใช้อินเตอร์เน็ต แต่ตัณหาไฝ่รู้มันมีมากจนยั้งใจไม่อยู่ จึงดิ้นรนช่วยตัวเอง (ตรงนี้อย่าเข้าใจผิดนะครับ ขอให้คิดในแง่ดี อิ อิ) ศึกษาด้วยตนเอง แม้กระทั่งภาษาจีนที่เคยร่ำเรียนมาแค่ 4 ปี (ใช้งานใช้การอะไรไม่ได้เลยจริง) หากแต่ไม่ได้ทอดทิ้ง ซื้อหาดิก จีน-ไทย มาอ่าน มาเขียน - เรียนมันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเปิดอ่านเว็บภาษาจีนได้ ครานี้แหละ โลกดึกดำบบรพ์ ในประเทศจีน ก็กลายเป็นแหล่งความรู้อันมหึมาให้กับผม มีวิทยาการที่ตื่นตาเร้าใจจนบอกไม่ถูก ข้อมูลที่เก็บเอาไว้มันท่วมหัว มันมากจนบอกไม่หมด (นอกเหนือจากที่โพสท์ขึ้นเว็บไซท์ แบ่งปันให้ได้รู้กันแล้ว) ยังมีเรื่องดีๆอีกพะเรอเกวียน ที่ไม่เกี่ยวกับการเกษตร เช่นการทำหินอ่อนเทียมเอย ทำสีที่เปล่งแสงได้เอง (มิใช่สะท้อนแสง) และ ฯลฯ หรือแม้แต่การปลูกหญ้าประดับนั้น ก็เป็นโรงงานอุตสาหกรรมไปแล้ว เหมือนโรงทอพรมเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ ผมถือว่า ผมได้เปรียบมากกว่าคนอื่นๆ ที่สามารถอ่านเขียนภาษาจีนได้ จึงขอใช้ความรู้ที่เรียนมา ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาวไทยทั่วประเทศ

สิ่งที่ผมรู้ สิ่งที่ผมดู ถ้าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์กับบรรดาชาวรากหญ้าในวงกว้างแล้ว ผมจะหยิบยกมันมาประเคนให้ก่อน ซึ่งมวลใหญ่ๆของประชากรไทย ก็คือ เกษตรกร นั่นเอง ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ นาซี 778 จึงได้นำมาเสนอให้แก่เกษตรกรไทย รวมทั้ง นาโนเทคที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงกุ้ง ปู ปลา ทั้งหมดที่ผมนำเข้ามาเสนอแนะแก่เกษตรกรไทยนั้น บอกได้เลยว่า มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ก็ว่าได้ เลยทำให้กลายเป็นสิ่งเหลือเชื่อ ที่ไม่มีใครอยากจะเชื่อกัน (โดยเฉพาะนักวิชาการ ได้ยินคำว่า สารชักนำพันธุกรรม ที่ผมพูดก็หัวเราะใส่ผมแล้ว)

โดยแท้จริงแล้ว ผลิตภัณฑ์ สินค้าที่ผมนำมาทำตลาดนั้น ผมมิได้คาดหวังว่าจะทำตลาดเพื่อเอากำไรเป็นหลัก แต่ต้องการให้เกษตรกรได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลผลิตมากล้น คุ้มค่า ปลอดภัยต่อร่างกาย แต่ต้องยอมรับว่า เหนื่อยทั้งใจ และกาย เพราะมันยากในการชักจูงเกษตรกรให้หันมาซื้อหาไปใช้กัน ต้องการขายของให้ได้ มันต้องมีการตลาดที่ดี แน่นอน อันนี้ต้องใช้เงินทุนมหาศาล แต่ผมมีเงินทุนไม่พอที่จะทุ่มให้กับมันหรอก ดังนั้นทางออกก็คือ ต้องอาศัยหน่วยงานรัฐฯ ช่วยผลักดัน แต่เจ้าประคุณเอ๋ย บอกเลยว่า ชาติไหนๆก็อย่าได้ไปหวังพึ่งทางการเลย เพราะผลประโยชน์ต้องมาก่อน (โดยเฉพาะนักการเมือง)

ทำไม สินค้าดีๆ อย่าง นาซี 778 จึงขายไม่ได้ ทำไม นาซี 778 จึงไม่มีวางจำหน่ายตามร้านเคมีเกษตร ก็เพราะว่า สินค้าตัวนี้ มันขัดผลประโยชน์ที่ทางร้านได้รับ ขืนเอาเข้าร้านเมื่อไร ตัวอื่นๆ ก็ไม่ต้องขายกัน (ปุ๋ย ยาโรครา ยาฆ่าแมลง อาหารเสริม ฮอร์โมน จิปะถะ ขายลดลงแยอะเลยหละ จะบอกไห้)

มีสินค้าเกษตรหลายๆตัว ที่ขายดีเทน้ำเทท่า อย่าง ไคโตซานปูแดง ปูดอง อะไรนี่แหละ และเร็วๆนี้ เป็นที่ฮือฮาก็คือ โอทู ขายดีจริงๆ เพราะมีการทำตลาดที่จูงใจสุด เพราะเป็นนะบบขายตรงแบบลูกโซ่ หรือ สินค้าขวดละ 2,000.- บาท ใครที่ซื้อไปแล้ว ชักชวนเกษตรกรท่านอื่นมาซื้อได้ ก็จะได้ผลตอบแทนคืน 500 บาท เป็นต้น ทำให้ขายดีเป็นบ้า แต่ที่ขายได้ดีนั้น เป็นเพราะคุณภาพสินค้ามันดี หรือผลตอบแทนในการขายมันดีกันแน่ ช่วยคิดให้ทีเถอะ คนที่ซวยก็คือเกษตรกร คนที่รวยก็คือคนขายนั่นเอง (คิดเป็นบ่อ ?)

ถ้าผมเป็นคนเห็นแก่ตัวสักนิดหนึ่ง ได้ของดีมาแล้ว อย่าได้แพร่งพรายให้ใครรู้ เช่าที่นา ซื้อที่ดินมาทำนา ใช้ นาซี 778 ช่วย ผมได้กำไร ต่อไร่  4 - 5 พันบาทต่อไร่เชียวนา แทนที่จะขาย นาซี ขวด 1 ลิตร (ใช้กับที่นา 1 ไร่) กำไรแค่ ร้อย สองร้อยบาท ช่วยคิดอีกทีเถอะ แต่...

โชคเข้าข้างคนดีเสมอ ต่อไป ผมก็ไม่จำเป็นต้องขาย นาซี 778 อีกแล้ว เพราะมีหน่วยงานเอกชน ขอซื้อผมหมด เพื่อนำไปใช้กับพืชที่ปลูกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าว อ้อย ข้าวโพด พืชล้มลุก พืชไร่ พืชสวน ฯลฯ

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มีเงื่อนที่ว่า ผมต้องขายให้กับลูกค้าที่เคยสั่งซื้อไปใช้ก่อนหน้านี้ได้ ขอให้สะบายใจได้ครับ

และขออภัยคุณวัฒน์อีกครั้ง ที่ไม่ได้ตอบกระทู้ให้เลย แต่คำตอบนั้น อีกหน่อยคุณวัฒน์ก็จะได้รับรู้เอง จากผลสนอง9v[ของต้นยางที่ได้ใช้ นาซี 778 นั่นแหละครับ

ผมขอเพิ่มเติม น่ะครับ ปุ๋ยที่ใส่ทางดิน ถ้าเป็นปุ๋ยเคมี ยากที่จะมีผลิตภัณ์ใด ช่วยให้ยางต่อต้านโรคใบร่วงได้ แนะนำว่า ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ที่มีส่วนผสมของ มูลค้างคาว มูลไก่ไข่ มูลวัวนม กากถั่วเหลือง ฟิลเตอร์เค้ก เนื้อปลาหมัก ซีโอไลท์ และมีจุลินทรีย์ สายพันธุ์ตรึงไนโตรเจน ย่อยสลาย คุมรา ใส่ปริมาณ กก.ต่อ ต้น เท่ากับอายุยาง ซึ่งถ้าต้นยางได้อาหารครบทุกธาตุโรคต่างๆยากที่จะทำลายครับ

ปล.ผมใช้ที่สวน ถ้ายางสวนผมแตกใบอ่อน แล้วเจอฝน เรียบร้อย เหลือแต่ก้านครับ นาซี ช่วยได้ครับ แต่เราควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุก่อน