ยังมีหลักปฏิบัติที่ผิดพลาดในการทำนาที่แล้วๆมา นั่นก็คือระดับน้ำที่ปล่อยขังในนา ที่ผ่านมามีการไขน้ำเข้านาในระดับที่สูงและคงระยะเวลายาวนาน ทำให้รากจ่อมจมในน้ำเป็นเวลานานเกือบตลอดเวลา ทำให้รากขาดอากาศ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ระดับแค่ 3 ถึง 4 เซนติเมตรนั้นเกิดผลดีกับต้นข้าวมากกว่าระดับน้ำที่สูง เนื่องจากระดับน้ำที่น้อยๆนั้น ดินท้องนามีโอกาสแห้งได้เร็วกว่า ทำพื้นดินมีโอกาสสัมผัสกับอากาศได้มากขึ้น รากได้รับออกซิเจนได้ดีกว่า ทำให้ระบบรากมีการพัฒนาขยายตัวมากขึ้น (เป็นรากที่เป็นสีขาว) ทำให้ดูดซับธาตุอาหารได้ดีกว่า และการให้ปุ๋ยเพื่อเร่งผลผลิต (เมล็ดข้าว) นั้น แทนที่จะหว่านให้ทางดิน ที่นี่เลือกเอาให้ทางใบ เพราะต้นข้าวสามารถดูดซับนำไปสร้างเมล็ดข้าวได้เร็วกว่าดูดซึมขึ้นมาจากพื้นดิน
เมื่อเข้าใจในหลักการปลูกข้าว ทำนาโดยเทคนิค แต้มสีแดง บนใบข้าวแล้ว หวังว่าชาวนาน่าจะได้นำมาใช้กับนาของตัวเอง เพื่อเพิ่มผลผลิตโดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนเป็นพิเศษแต่อย่างใด เพียงแค่จัดการดูแลให้สอดคล้องกับระยะการเติบโตของต้นข้าว ก็ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม กรมการข้าวควรจะเป็นพี่เลี้ยงช่วยอีกแรงหนึ่ง ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรไทยเป็นอย่างยิ่ง
หมายเหตุ :
ทุกวันนี้ นักวิชาการเกษตรจีน ให้ความสำคัญต่อ กระบวนการ แสงสังเคราะห์ มากกว่าการให้ปุ๋ย ในการเพาะปลูก เพราะการใส่ปุ๋ยนั้น หาใช่หนทางที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตไม่ คราวหน้าจะยกตัวอย่างที่ชัดเจนมาสนับสนุนความจริงข้อนี้ (เอาปุ๋ย CO2 ใส่ถุงมาป้อนให้กับพืชที่ปลูก)
|