ฉากแรก พิธีกรสาวเจ้าเดิมที่ชื่อว่าลู่ไหม (陆梅) มาเป็นพิธีกรในรายการพิเศษที่ต่อเนื่องเป็นชุด (series) ที่ชื่อว่า “คุณรู้ไหมเอ่ย” (你知道吗) ออกมาเกริ่นกล่าวเนื้อหาของเรื่องราวที่จะนำเสนอในวันนี้ เธอบอกว่าต้นมะเขือเทศที่สูงเท่าตึกสองชั้นปลูกอยู่ในโรงเรือนเพาะปลูก ณ.สถาบันการเกษตรและป่าไม้แห่งกรุงปักกิ่ง (北京市农林科学院/ BeijingAcademyof Agriculture and Forestry) โดยทางผู้จัดรายการได้ส่งผู้สื่อข่าวไปสอบถามผู้คนหลากหลายอาชีพที่มีอายุแตกต่างกันว่า “คุณรู้ไหม ต้นมะเขือเทศสูงแค่ไหน ?” คำตอบที่ได้ก็แตกต่างกันออกไป
คนแรกบอกว่า คงไม่สูงเท่าไร (อ้าว แล้วมันสูงเท่าไรกันล่ะเพ่)
สาวน้อยตอบว่า สูงกว่าหนูอ่ะ (แหมเอาตัวเองเป็นมาตรฐานเลยเชียวนะ แม่หนูน้อย) ส่วนสาวใหญ่บอกว่า หนึ่งฟุต (เหวอ !)
ชายน้อยตอบว่า 4 ถึง 5 เซนติเมตร (วุ้ย ยิ่งทียิ่งเตี้ยลงนะเนี่ย!!!)
ส่วนวัยรุ่นชายผู้นี้ตอบว่า ไม่รู้ซีครับ (แหมตอบได้ซื่อตรงดีนี่ ไมรู้ก็บอกว่าไม่รู้)
ส่วนคนสุดท้ายที่ยิงคำถามออกไป อาม่าตอบว่า อาราย จาถ่ายรูปอาม่าไปออกทีวีเหรอนี่ (เป็นงง เป็นงง สับสนไปแล้วอาม่าจ๋า)
ฉากต่อมาตัดไปยังสถานโรงเรือนเพาะปลูกของสถาบันการเกษตรและป่าไม้แห่งกรุงปักกิ่งที่มีท่านอาจารย์ หลิว หมิงฉือ (刘明池) เป็นผู้ควบคุมดูแล วันนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาชมต้นมะเขือเทศที่มีความสูงเท่ากับตึก 2 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเพาะปลูกพืชผักทั้งนั้น
จากการสุ่มถามผู้คนเกี่ยวกับมะเขือเทศต้นสูงใหญ่ดังกล่าว บางคนบอกว่า มันคงไม่ใช่มะเขือเทศเป็นแน่ คงเป็นปู่มะเขือเทศบ้าง บ้างก็ว่าเป็นมะเขือเทศกลายพันธุ์ มีบางท่านก็บอกว่าคนปลูกมีฝีมือขั้นเทพ บ้างก็ว่าทำการเปลี่ยนตอติดตา บางคนก็ตอบเข้าท่าหน่อยว่า อาจจะได้รับรังสี หรือไม่ก็ได้รับสารกระตุ้นประเภทฮอร์โมน ซึ่งคำตอบทั้งหมดนี้ ไม่มีข้อใดถูกต้องเลย มะเขือเทศที่ปลูกนี้เป็นสายพันธุ์ธรรมดาที่ปลูกอยู่ทั่วไป เพียงแต่ว่าใช้เทคนิคที่ศึกษาเรียนรู้มาทางด้านวิทยาศาสตร์ - ชีววิทยามาประยุกต์ใช้เท่านั้นเอง
การปลูกพืชไร้ดินนั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ เพอร์ไลต์ ผสมกับอินทรียวัตถุ แต่อาจารย์หลิวไม่ใช้อินทรียวัตถุเลย คงใช้แต่ เพอร์ไลต์เพียงอย่างเดียว (เรียกว่าใช้เพียวๆ) อาจารย์หลิวยังกล่าวอีกว่า การที่ไม่ใช้อินทรียวัตถุเลยนั้นก็เพื่อเป็นการรักษา ทรัพยากรธรรมชาติ เพราะกว่าได้วัตถุอินทรีย์นั้น ต้องใช้เวลาย่อยสลายตัวเป็นเวลานับร้อยนับพันปีเลยทีเดียวส่วนเพอร์ไลต์นั้นเป็นสารอนินทรีย์ที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ หลังจากใช้งานสมประโยชน์แล้วก็สามารถนำไปหว่านใส่ลงพื้นดิน เป็นวัตถุปรับปรุงบำรุงดินได้อีกต่างหาก