ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ตรงหน้าก็คือ เราจะรู้อย่างไรว่า ต้นพืชได้รับเพียงพอหรือไม่ และจะจัดหาอาหารธาตุ CO2ป้อนให้กับพืชได้อย่างไร โดยวิธีใด ?
สิ่งที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นการชี้ให้เห็นว่า คาร์บอนไดออกไซด์นั้น เป็นธาตุอาหารพืชที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโต และให้ผลผลิตของต้นพืชอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม CO2นั้น ทำหน้าที่เป็นทั้งธาตุอาหาร และมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในกระบวนการ แสงสังเคราะห์ อย่างแนบแน่นชนิดที่ที่แยกกันไม่ได้
วิดีโอคลิป ที่หยิบยกมาให้ชมนี้ เป็นเครื่องยืนยันให้เห็นถึง ความสำคัญ ของคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีต่อการเจริญเติบโต และให้ผลผลิตที่ดีกว่าการให้ธาตุอาหารทางดินแต่เพียงถ่ายเดียว จากการเพิ่ม อากาศธาตุ CO2 ให้แก่บัวปลูกเพื่อเก็บรากบัวขาย ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้นั้น เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เมื่อเทียบกับที่เลี้ยงดูตามปกติ (ไม่ให้ CO2 เพิ่มเติมแต่อย่างใด) บ่งชี้ให้เห็นว่า เกษตรกรไทยนั้น ละเลยต่อความสำคัญของ ธาตุอาหารอากาศ CO2 โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่อง CO2 เป็นปุ๋ยที่เราได้มาโดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อหา ทว่าไร้ตัวตนเหมือนปุ๋ย N, P, K จึงทำให้เราขาดความกระตือรือร้น ไม่ดิ้นรนค้นหามาสนองความต้องการของพืช เหมือนดั่งที่เกษตรกรชาวจีนกระทำกัน (ทั้งๆที่เราก็เข้าใจในหลักการเช่นนี้มาตลอด) แล้วเกษตรกรจีนมีวิธีการอย่างไร ในการเพิ่ม CO2 ให้แก่พืชที่ปลูกอย่างเพียงพอ ถ้าในสภาวะการเพาะปลูกในเขตุร้อนที่ทำกันในที่เปิดโล่งอย่างประเทศไทย เราก็คงจนปัญญาคิดไม่ออกว่าควรทำอย่างไร แต่ในประเทศจีนที่ส่วนใหญ่เพาะปลูกในโรงเรือน เนื่องจากต้องป้องกันอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว โรงเรือนปิดค่อนข้างมิดชิด จึงสามารถเก็บกักอากาศธาตุ CO2 ไว้ได้ โดยการสุมไฟที่ได้ทั้งแก๊สและความอบอุ่น หรือไม่ก็นำเครื่องผลิตคาร์บอนไดออกไซด์มาติดตั้งในโรงเรือนกันเลย แต่ในกรณีของบัว ที่ปลูกในสระน้ำ ไม่มีโรงเรือนกั้นกางนั้น เกษตรกรรายนี้ มีวิธีการเพิ่ม CO2 ให้แก่บัวที่ปลูกอย่างไร ติดตามดูจากวิดีโอคลิปนี้ได้ แต่ก่อนอื่น ขอให้อ่านคำบรรยายคร่าวๆนำร่องเสียก่อน แล้วจะชมวิดีโอคลิปนี้ได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
ณ.เมือง จือป๋อสื้อ มณฑล ซานตง (山东省的淄博市) ชายหนุ่มนามว่า หวังเฟิง (王锋) ที่สำเร็จการศึกษาสาขาวิจัยงานการเกษตร และทำงานในสำนักงานการเกษตรเพื่อกรุยทางสู่ตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานในวันข้างหน้า ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ หวังเฟิงได้ชักชวนเพื่อนคนหนึ่งให้มาร่วมลงทุนปลูก บัวกินราก ที่บึงบัว เหมิ่งซานหู (萌山湖) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกบัวกินรากอินทรีย์ที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ บัวที่ปลูกเป็นสายพันธุ์ ดอกสีขาว ซึ่งเป็นพันธุ์เดียวกับชาวบ้านที่ปลูกกันทั่วไปที่นี่ แต่ทว่าผลผลิตที่คุณ หวังฟิง เก็บเกี่ยวได้ต่อไร่นั้น มากกว่าเพื่อนบ้านเกือบเท่าตัว (เฉลี่ย 9,600 กิโลกรัม/ไร่) หนุ่มหวังเฟิงบอกว่า เทคนิคการทำให้ได้รากบัวเพิ่มขึ้นสูงเช่นนี้ อยู่ที่หลักการทำให้ใบบัวนั้นคงความเขียวได้ทนนานกว่าปกติทั่วไป 2 ถึง 3 เดือน จึงสามารถทำให้ผลผลิตเพิ่มได้มากขึ้น หนุ่มหวังเฟิงทำได้อย่างไร ติดตามฟังหลักทางวิชาการที่จะขยายให้ฟังกันต่อไป
|