เทคนิคการจำลองพืชด้วยใบ (โคลนนิ่ง / ปักชำด้วยใบ) หากพิศดูอย่างผิวเผินแล้ว คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างตื้นเขิน แต่ถ้าหากทำการพิเคราะห์ให้ลึกซึ้งลงไปแล้ว ผลที่ได้จากวิธีโคลนนิ่งใบนี้ยังนำไปประยุกต์ใช้ในการขยายพันธุ์พืชอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในภาคของการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชลูกผสมที่เรียกว่า ไฮบริด ไม่ว่าจะเป็นในรุ่นของ F1หรือ รุ่นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ก็ตาม
ถ้าหากเกษตรกรปลูกพืชผักที่จำต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ลูกผสมราคาแพงมาปลูก สามารถนำเอาเทคนิคดังกล่าวมาประยุกต์ใช้แล้ว การซื้อเมล็ดพันธุ์แค่ครั้งเดียวก็สามารถปลูกพืชพันธุ์นั้นๆได้ตลอดเรื่อยไป ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินซื้ออีก เพราะการโคลนนิ่ง จำลองพันธุ์นั้นไม่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ไปอย่างแน่นอน แต่ถ้าเก็บเมล็ดจากพืชที่ปลูกเอาไว้มาทำพันธุ์ต่อนั้น อย่าได้พึงกระทำ เพราะลักษณะที่ดีนั้นปรวนแปรไปอย่างคาดคิดไม่ถึงเลยทีเดียว
หากเกษตรกรได้นำเทคนิค ปักชำใบพืช มาใช้แล้ว ใช่ว่าจะมีผลกระทบที่ไม่ดีกับผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ลูกผสมเท่านั้น แต่ยังเกิดผลในทางที่ดีได้ด้วย นั่นก็คือสามารถธำรงสายพันธุ์ แกรนด์พาเร้นท์ - พาเร้นท์ สต๊อค ที่ใช้ผลิต รุ่น F1 ได้อย่างมีเสถียรภาพอีกด้วย เนื่องจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ F1 ในแต่ละครั้งจะเกิดการแปรปรวนรวนเรของหน่วยพันธุกรรมแล้ว ปัจจัยของสภาพแวดล้อมก็ส่งผลกระทบต่อการผลิตด้วยเช่นกัน ดังนั้นงานนี้ พูดได้ว่า เกษตรกรก็ได้รับผลประโยชน์ ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ก็ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
คราวหน้าจะแนะนำให้ได้รู้จักกับนักวิชาการที่มีผลงานโดดเด่นท่านหนึ่ง ที่อาจหาญป่าวประกาศวลีที่ว่า “ขอใบไม้ให้ฉันสักหนึ่งใบ แล้วฉันจะคืนพื้นป่าใหญ่ให้หนึ่งผืน” (给我一片树叶,还你一片森林) ผลงานของท่านนั้นลือลั่นไปไกล แม้กระทั่งนักวิชาการจากอิสราเอล อเมริกา ก็ยังทึ่งจนต้องเข้ามาศึกษาหาความรู้ด้วยเลย
แล้วไทยเราเล่า ยังคงนิ่งเฉยได้ฤา ?
|