ReadyPlanet.com
dot dot
dot
นาซี 778 [Nashi 778]
dot
bulletรู้จักนาซี 778
bulletคุณสมบัติ
bulletประสิทธิภาพ
bulletวิธีใช้นาซี 778
bulletข้อควรระวัง
bulletทฤษฏี กลไก และ บทบาท
bulletขนาดและราคา
dot
นาโน 863 [Nano 863]
dot
bulletรู้จักนาโน 863
bulletประสิทธิภาพ
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการเพาะปลูก
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการปศุสัตว์
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการเห็ด
bulletขนาดและราคา
dot
นาโนบอล [Nano Ball]
dot
bulletรู้จักนาโนบอล
bulletวิธีใช้นาโนบอล
bulletราคา
dot
นาโนสทีค [Nano Stick]
dot
bulletรู้จักนาโนสทีค
bulletราคา
dot
Download Brochures
dot
bulletโปรชัวร์นาซี 778 และนาโน 863
dot
Photo Albums
dot
bulletอัลบั้มรูปผลผลิตต่างๆที่ได้จากนาซี 778
dot
รายงานผลการใช้ผลิตภัณฑ์
dot
bulletสารสมุนไพรนาซี 778
dot
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
dot
bulletหมวดหมู่สินค้า
dot
ตะกร้าสินค้า
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
bulletยืนยันการโอนเงิน
bulletตรวจสอบสถานะสั่งซื้อสินค้า
dot
สมัครรับข่าวสาร

dot


Go to Nanosoeasy.com
Nano 863 Video Clip #1
Nano 863 Video Clip #10
Nano 863 Video Clip #9
Nano 863 Video Clip #8
Nano 863 Video Clip #7
Nano 863 Video Clip #6
Nano 863 Video Clip #5
Nano863 Video Clip #3
Nano 863 Video Clip #2


并蒂荔枝 (ปิ้งตี้ลี่จือ) คืออะไร ?

 

ในช่วงการเจริญเติบโตของต้นบัว ระยะที่กำลังก่อร่างสร้างดอกนั้น โดยปกติทั่วไปแล้ว ดอกที่โผล่ผุดเหนือน้ำนั้นจะเป็นดอกเดียวเดี่ยวๆบนแต่ละก้านดอก หากแต่ทว่า ถ้าได้รับผลกระทบจากบางสิ่งบางอย่างในสภาพแวดล้อม หรือเกิดความผิดปกติภายในของต้นบัวเอง จะทำให้เกิดเป็นดอกแฝดบนก้านดอกเดียวกัน ชาวจีนเรียกดอกบัวลักษณะนี้ว่า ปิ้งตี้เหลียน (并蒂莲) หากจะกล่าวตามแนวทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็คือ เกิดการกลายพันธุ์ นั่นเอง ซึ่งชาวจีนถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นโชคเกิดลาภแก่ผู้พบเห็น เป็นความหมายที่ถูกนำมาใช้ในด้านความรักการครองคู่ (เพราะอยู่เป็นคู่กัน) การครองรักครองเรือน และมักจะนำรูปดอกบัวลักษณะนี้มาแปะไว้ 2 ข้างบานประตูบ้านเมื่อฤกษ์งามยามจัดงานเข้าสู่ประตูวิวาห์

เมื่อกล่าวถึงดอกบัวก็พลันนำพาให้นึกถึง ดอกบัวที่เป็นโลโก้ของยาสีฟันยี่ห้อหนึ่ง (เรียกให้โก้หรูทันสมัยหน่อย หากใช้คำว่า ตรา ก็จะถูกหาว่าเชยจังเลยนี่คุณลุง) ดอกบัวคู่ นั่นไง ใครๆก็รู้จัก เพราะโฆษณาไปทั่วทั้งโทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์ จึงค้นหารูปดูว่า เป็นดอกบัวในลักษณะนี้หรือเปล่า ปรากฏว่าไม่ยักกะใช่แฮะ เห็นเป็นแต่ดอกบัว 2 ดอกจัดวางคู่กันเท่านั้น  จึงมิใช่บัว ปิ้งตี้เหลียน ดังนั้น จึงไม่ใช่ดอกบัวแฝด เป็นแค่ดอกบัวคู่เท่านั้น ถัดจากบัวคู่ก็อดให้นึกถึงชื่อบัวงามนางหนึ่งนามว่า บัวคลี่ รู้จักไหม ถ้าไม่รู้จักก็ให้ไปอ่านวรรณคดี ชุนช้าง-ขุนแผนเอาเองละกัน (บัวที่ยังไม่บาน เรียกว่าบัวตูม บัวที่บานแล้วเรียกว่า บัวบาน แต่บัวบานฟังแล้วไม่เสนาะหูและอยู่ได้ไม่นาน นางในวรรณคดีนางนี้จึงเลือกเอาเป็น บัวคลี่ ดีฝ่า เพราะบัวบานอีกไม่นานก็จะร่วงโรย แต่บัวคลี่เพิ่งจะแย้มกลีบ คงอยู่โชว์ความงามอยู่ได้นานกว่า)

พูดถึงบัวก็อยากพูดคุยถึงรากบัวสักนิดหนึ่ง คนไทยเราไม่ใคร่กินรากบัว หากแต่กินก้านบัว ต่างจากชาวจีนที่นิยมกินราก คนจีนปลูกบัวเพื่อชื่นชมดอก แต่คนไทยปลูกบัวเพื่อตัดดอกบูชาพระ นั่นคือสาเหตุที่ไทยเราไม่นิยมกินรากบัว หากขุดรากแล้วก็จะอดได้ดอก ทั้งนี้เพื่อต้องการให้บัวขยายรากออกดอกให้เก็บได้เรื่อยๆ เก็บได้นานๆ หากรื้อเอารากแล้วก็ไม่มีดอกบัวไหว้พระ คนจีนปลูกบัวเพื่อเก็บรากโดยเฉพาะ ปลูกจนออกดอกแล้วก็รื้อสระเก็บรากเกลี้ยงบ่อไปเลย  

สมัยเด็ก แม่ผมชอบซื้อรากบัวมาต้มแกงจืด โดยการหั่นรากตามขวางออกเป็นแว่นๆ จะเห็นเป็นรูอากาศเล็กๆกระจายเต็มแว่น แม่เรียกรากบัวว่า แหล่นแงว (ภาษาแคะ แต่ผมเรียกว่า จมูกบัว เพราะรูอากาศเล็กขนาดมันพอๆกับรูจมูกของคน) ส่วนใหญ่จะใส่ซี่โครงหมู หางหมูและถั่วลิสงลงต้มพร้อมกัน ผมไม่ชอบกิน เพราะรากมันเละ แต่ต่อมากลับชอบกิน เมื่อได้กินชนิดที่ต้มไม่นิ่มจนเละ ก็อร่อยดีเหมือนกัน เพราะเวลาเคี้ยวมันกรุบๆ)   

ดอกบัวคู่ มิใช่ดอกบัวแฝด

ดอกบัวคู่ มิใช่ดอกบัวแฝด

 บัว จ้า บัว (เคยเห็นไหม)

บัว จ้า บัว (เคยเห็นไหม)

บัวขาว

บัวขาว

บัวขาว

ปิ้งตี้เหลียน (บัวแฝด)

 

ร่ายเรื่องบัวมาซะยาว คงคิดว่าผมจะเล่าเรื่องบัวเป็นแน่ แต่ไม่ใช่หรอกครับ จะเล่าเรื่อง ลิ้นจี่ น่ะครับ (อ้าว แล้วไหงเป็นงั้นไป บัวอยู่ในน้ำ ลิ้นจี่มันอยู่บนบก แล้วมันเกี่ยวดองอะไรกันหรือ ?) เกี่ยวบ้างนิดหน่อย เกี่ยวกับ ชื่อเรียก เท่านั้นเอง ก็คำว่าปิ้งตี้เหลียน (并蒂莲) นี่แหละ แต่แทนที่จะเป็นบัว กลับเป็นผลลิ้นจี่แทน คือปิ้งตี้ลี่จือ (并蒂荔枝) ลิ้นจี่แฝด เมื่อเป็นฉะนี้แล้ว ลิ้นจี่แฝด ปิ้งตี้ลี่จือกวั่ว (并蒂荔枝果/ ปิ้งตี้= ร่วมฐาน.ลี่จือ = ลิ้นจี่.果= ผล. ความหมายก็คือ ผลลิ้นจี่ ที่เกิดร่วมบนฐานขั้วดอกเดียวกันนั่นเอง) ดังนั้นชาวจีนจึงมีผลไม้มงคลที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างซึ่งบางคนกล่าวติดตลกว่า ถ้าอย่างนั้นมันก็ดีกว่าดอกบัวแฝดนะซิ เพราะดอกบัวนั้นกินไม่ได้ แต่ลิ้นจี่นี่กินได้ อีกทั้งยังมีรสชาติดี เนื้อกรอบ กลิ่นหอม และรสหวานนั้นเกิดจากน้ำตาล Fructose ด้วยนะครับ กินแล้วไม่ร้อนใน ไม่อ้วนซะด้วยซี (แต่ แล แล้...เรียกว่า ดีสมบูรณ์แบบ)

พูดถึงลักษณะ และคุณสมบัติพิเศษของ ลิ้นจี่แฝด (ปิ้งตี้ลี่จือ / 并蒂荔枝) ที่บอกกล่าวมาให้ทราบนี้ หาใช่คุณลักษณ์ที่พิเศษสุดยอดของลิ้นจี่ชนิดนี้ไม่ คุณสมบัติพิเศษที่จะบอกกล่าวให้ทราบก็คือลิ้นจี่สายพันธุ์นี้ ไม่มีเมล็ด ครับ (ย้ำ / ไม่มีเมล็ดจริงๆ ไม่ใช่เมล็ดลีบ เพราะไม่มีการฟอร์มเมล็ดเกิดขึ้น และผลทั้งต้นไร้เมล็ดถึง 99 เปอร์เซ็นต์ !) ผู้ปรับปรุงพันธุ์ท้าว่า ถ้าผลลิ้นจี่ภายในต้นหนึ่งๆ มีลิ้นจี่ไร้เมล็ดน้อยกว่า 99 % ให้มารับเงินรางวัลได้เลย 500 หยวน (ประมาณ 2,500 บาท)

ลิ้นจี่สายพันธุ์นี้ ถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์ไร้เมล็ดโดยแท้จริงเพียงสายพันธุ์เดียวในโลก  ที่เกิดจากการผสมตัวเองแล้วทำให้ก่อร่างเป็นผลที่ไม่มีเมล็ดเกิดขึ้น ผลไร้เมล็ดที่เกิดขึ้นในต้นหนึ่งๆนั้นสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นในผลหนึ่งๆนั้นจึงอัดแน่นไปด้วยเนื้อหนาจนแทบปริ  เนื้อออกเป็นสีขาวน้ำนม เนื้อกรอบ กลิ่นหอม รสหวาน มีกลิ่นอายของน้ำผึ้งแฝงในผล น้ำหนักเฉลี่ยต่อผลอยู่ที่ 46 กรัม ผลที่มีขนาดใหญ่นั้นอาจมีน้ำหนักถึง 82 กรัมเลยทีเดียว มีคุณค่าทางอาหารสูง มิได้บริโภคเป็นผลไม้สดเท่านั้น แต่ยังเหมาะที่จะนำไปแปรรูปในกระป๋องที่คุ้มค่าอีกด้วย (ในเมื่อไม่มีเมล็ด ก็ไม่ต้องใช้แรงงานแกะเอาเมล็ดออก ประหยัดต้นทุนได้อีก ใช่อ๊ะเปล่า ?) แต่ที่แน่ๆมันให้ผลแฝดเสียด้วยซี(ก็บอกแล้วไงว่าเป็น ปิ้งตี้ลี่จือ)

นอกจากคุณสมบัติที่หยิบยกมาให้ฟังดังว่าแล้ว ลิ้นจี่สายพันธุ์ใหม่นี้ (ปิ้งตี้หูเหอลี่จือ / 并蒂无核荔枝) ยังขจัดปัญหาผลผลิตไม่คงที่ในแต่ละปี (สูง – ต่ำ ของปีต่อเนื่องกันได้อย่างเด็ดขาด ปีนี้ผลผลิตสูง ปีถัดไปผลผลิตก็ตกต่ำลดน้อยลง) บางพื้นที่ขนานนามให้ว่า ฉิงหลีลี่จือ情侣荔枝 หมายถึง ลิ้นจี่คู่ตุนาหงัน ทั้งหมดนี้คือข้อมูลหลักของลิ้นจี่ ไร้เมล็ดที่มีแหล่งกำเนิดบนเกาะห่ายหนาน (海南岛/เกาะไหหลำต่าว= เกาะ) แล้วคุณรู้ไหมว่าสนนราคาต่อกิโลกรัมนั้นเท่าไร ? บอกแล้วอย่าตกใจ ผลผลิตจากสวนอินทรีย์ (ที่เริ่มวางตลาดใหม่ๆ) กิโลกรัมละ 5,000.00 (ห้าพันบาทครับ) ไม่ใช่ขายไม่ได้นะครับ แต่ขายหมดตั้งแต่อยู่ในมุ้ง (เอ๊ย ไม่ใช่ครับ) ขายหมดตั้งแต่อยู่ในสวน โดยผู้ซื้อไปหาหาซื้อถึงสวนเลยทีเดียว (น่าว่าจะซื้อแล้วไม่ได้กินเอง แต่ซื้อไปฝากจ้าวนายเสียละมากกว่า) ส่วนราคาขายต่ำสุดอยู่ที่ 300.00 บาท/กิโลกรัมครับ เอาละ ครานี้จะพาไปดูเนื้อหาในวีดิโอกัน เชิญติดตามมาได้ครับ

ฉากแรกที่เห็นก็คือพิธีกรสาวเจ้าประจำ CCTV 7 ช่องการทหารและการเกษตร ในรายการ เคอจี้เยี่ยน (科技苑 / อุทยานเทคโนโลยีเกษตร) ออกมาบอกกล่าวถึงการละเล่นที่จัดขึ้น ณ.สวนลิ้นจี่แห่งหนึ่งที่เริ่มฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตนั่นก็เกม แข่งกินลิ้นจี่ ใครกินหมดก่อน คนนั้นจะได้รับลิ้นจี่ที่เหลือในภาชนะทั้งหมด ผลลิ้นจี่นั้นเก็บมาจากต้นใหม่ๆ โดยเด็กแต่ละคนจะได้รับผลลิ้นจี่ 5 ลูกเท่าๆกัน ผลปรากฏว่าสาวน้อย อาฮว๋า กลืนกินหมดก่อนคนแรก (ตรงนี้ต้องใช้คำว่ากลืนด้วย เพราะไม่คายเมล็ดเลย) ซึ่ง อาเก่า สังเกตเห็นว่าเพื่อนหญิงคนนี้เล่นเอาเปรียบ ไม่คายเมล็ดทิ้งเหมือนคนอื่นๆ จึงทำการประท้วง ทำให้ผู้ใหญ่ต่างหวัวเราะขบขันกัน พร้อมอธิบายว่า  มิได้ สาวน้อยอาฮว๋า มิได้กลืนกินเมล็ดหรอก เพราะลิ้นจี่ที่สาวน้อยอาฮว๋ากินนั้นไม่มีเมล็ดเพียงแต่จะทำให้ประหลาดใจเล่นเท่านั้นเอง และกล่าวต่อว่า สวนลิ้นจี่แห่งนี้ปลูกลิ้นจี่ 2 สายพันธุ์ สายพันธุ์หนึ่งมีเมล็ดในเนื้อ แต่อีกสายพันธุ์หนึ่งซึ่งเพิ่งจะนำมาปลูกใหม่นั้น เป็นสายพันธ์ที่ไม่มีเมล็ด จึงทำให้สาวน้อยอาฮว๋า กินได้หมดก่อน เพราะไม่ต้องเสียเวลาคายเมล็ดทิ้ง เข้าใจไหมจ๊ะ ว่าแล้วคุณป้า น้า อาก็หัวร่อชอบใจ (ที่หลอกเด็กได้) พร้อมทั้งพิสูจน์ให้เห็นจะๆ โดยฉีกเปลือกลิ้นจี่ออกมาเปรียบเทียบให้เห็นว่าไม่ได้โกหก โกเจ็ดนะนี่ (ชื่อเรียกอาเก่าในภาษาจีนกลาง หมายถึง ไอ้หมา ส่วนที่บ้านเราจะได้ยินเป็น อ๋าเกว ในภาษาแคะ และ อาเก้า ในภาษาแต้จิ๋ว ถ้าใครที่มีเพื่อนชื่อนี้แล้วละก้อ ท่านกำลังเรียกเพื่อนว่า ไอ้หมา นั่นแหละครับโปรดเข้าใจด้วย ส่วนบางคนที่โตแล้วรู้สึกอับอาย ขอเปลี่ยนเป็น แก้ว ให้เพี้ยนเสียงไปหน่อยหนึ่ง ก็เป็นทางออกที่เข้าท่าดี สำหรับไทยเราก็นิยมเรียกชื่อลูกว่า หมา ก็มี (เรียกด้วยความเอ็นดูเหมือนคำ บักหำน้อยนั่นแหละ) เรียกจนติดปากจนกระทั่งโตเป็นหนุ่ม ก็ยังเรียกกันอยู่ แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร เนื่องจากเคยชินเสียแล้ว พอเรียกชื่อ หมา เพื่อนก็หันขวับขานรับทันที ครับผม) แขกรายหนึ่ง ที่เข้ามาซื้อลิ้นจี่ (เจ้าของสวนให้เข้าไปปลิดเก็บได้ด้วยตนเอง ซึ่งสวนผลไม้ในจีนนิยมปล่อยให้ผู้ซื้อเข้าไปเก็บเองถึงต้น แล้วนำออกมาชั่งคิดเงิน) กล่าวว่า ทุกวันนี้ ลิ้นจี่ไร้เมล็ดนี้ขายได้ราคาดี เพราะไม่มีเมล็ดให้รำคาญในเวลากิน และมีลักษณะที่เป็นมงคลด้วย จึงเป็นที่นิยมชมชอบของผู้บริโภค ราคาขายกิโลกรัมละ 300 บาท ยังไม่พอขายเลย (แล้วก็ปลีกตัวแจ้นไปเก็บลิ้นจี่ต่อ กลัวของหมดอ่ะ)

ลิ้นจี่น่ากิน

ลิ้นจี่น่ากิน

 ลิ้นจี่แฝด (ปิ้งตี้ลี่จือ)

ลิ้นจี่แฝด (ปิ้งตี้ลี่จือ)

 เครื่องหมายความรัก (ลิ้นจี่แฝด) บนหน้าเว็บไซท์

 เครื่องหมายความรัก (ลิ้นจี่แฝด) บนหน้าเว็บไซท์

ดูให้เต็มตา ไม่มีเมล็ดนะจ๊ะ

ดูให้เต็มตา ไม่มีเมล็ดนะจ๊ะ

 บรรยายคุณภาพของ ลิ้นจี่ไร้เมล็ด (แฝดด้วยนะนี่) มีใบรับรองจากสถาบัน ผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ อินทรีย์ ตรวจสอบย้อนหลังได้

 บรรยายคุณภาพของ ลิ้นจี่ไร้เมล็ด (แฝดด้วยนะนี่)
มีใบรับรองจากสถาบัน ผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ อินทรีย์
ตรวจสอบย้อนหลังได้

คุณ หวัง เหวินเปียว เกษตรกรคนเก่ง

คุณ หวัง เหวินเปียว เกษตรกรคนเก่ง

แฝดเปล่า

แฝดเปล่า

เปลือกบางสี (แดง) กุหลาบสด

เปลือกบางสี (แดง) กุหลาบสด

สรรพคุณของลิ้นจี่ไร้เมล็ดที่เหนือกว่าลิ้นจี่ทั่วไป

สรรพคุณของลิ้นจี่ไร้เมล็ดที่เหนือกว่าลิ้นจี่ทั่วไป

 เนื้ออัดแน่นเต็มผล (ปราศจากเมล็ด)

เนื้ออัดแน่นเต็มผล (ปราศจากเมล็ด)

รสหวานอมเปรี้ยว  รสดูดดื่มเหมือนอยู่ในอารมณ์รักทีเดียว (เข้าใจว่าไปนั่น)

รสหวานอมเปรี้ยว  รสดูดดื่มเหมือนอยู่ในอารมณ์รักทีเดียว (เข้าใจว่าไปนั่น)

เนื้อหนาแน่น เต็มผล ผลเดียวก็จุใจ

เนื้อหนาแน่น เต็มผล ผลเดียวก็จุใจ

บรรยายสรรพคุณลิ้นจี่ไร้เมล็ด

บรรยายสรรพคุณลิ้นจี่ไร้เมล็ด

บอกวิธีทำเหล้าลิ้นจี่ เอาลิ้นจี่แกะเปลือกใส่ในโถแก้วที่มีฝาปิดสนิท เทเหล้าใส่ให้เต็ม ปิดฝาทิ้งไว้ 2 คืนวัน กินลิ้นจี่ 1 ผล เท่ากับดื่มเหล้า 1 เป๊กเชียวนะคุณ

บอกวิธีทำเหล้าลิ้นจี่ เอาลิ้นจี่แกะเปลือกใส่ในโถแก้ว
ที่มีฝาปิดสนิท เทเหล้าใส่ให้เต็ม ปิดฝาทิ้งไว้ 2 คืนวัน
กินลิ้นจี่ 1 ผล เท่ากับดื่มเหล้า 1 เป๊กเชียวนะคุณ

โชว์ผลที่ดกหนาแน่น

โชว์ผลที่ดกหนาแน่น

เตรียมคัดเกรด บรรจุกล่อง- ลัง

เตรียมคัดเกรด บรรจุกล่อง- ลัง

โอ ขาวจั๊ว น่าเจี๊ยะ

โอ ขาวจั๊ว น่าเจี๊ยะ

เอามาให้ดูเฉยๆงั้นแหละ

เอามาให้ดูเฉยๆงั้นแหละ

สวยงาม (ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร)

สวยงาม (ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร)

 
จากนั้นฉากตัดมายังชายวัยกลางคนนามว่า หวัง ถิ่งเปียว (王廷标คนที่ค่อนข้างอัตคัดเส้นผม) ผู้ทำการปรับปรุงพันธุ์ลิ้นจี่ไร้เมล็ด ให้สัมภาษณ์ว่า  ผมใช้เวลาร่วม 4 ปีในการเฝ้าศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงของผลลิ้นจี่ที่เกิดการกลายพันธุ์ที่ปลูกภายในสวน เมื่อถึงฤดูตกผล มีอยู่ 2 ต้นที่บางครั้งผลก็มีเมล็ด แต่บางฤดูก็ไร้เมล็ด จึงได้เฝ้าสังเกตถึงสภาพรอบข้างของต้นลิ้นจี่ทั้งสองต้นนี้ โดยเฉพาะอุณหภูมิของอากาศยามเมื่อต้นลิ้นจี่เริ่มผลิตาดอก เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อไรที่ช่วงการแตกดอกนั้น อุณหภูมิอากาศต่ำกว่า 22 องศา รังไข่ดอกที่ได้รับการผสมเกสรนั้นจะไม่มีการพัฒนาตัวเอง จึงไม่มีเมล็ดเกิดขึ้น แต่ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 22 องศาแล้วไซร้ รังไข่ที่ได้รับการผสมนั้นจะพัฒนาเป็นเมล็ดไปเกือบทุกผล คุณหวังจึ่งคิดว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถยับยั้งการพัฒนาเมล็ดของลิ้นจี่ได้หลังจากได้รับการผสมเกสรแล้ว หากจะใช้ความหนาวเย็นของสภาพอากาศเป็นตัวบังคับ คงทำไม่ได้เป็นแน่ เพราะไม่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้ ถ้าเป็นดังนั้น แล้วความหนาวเย็นของอากาศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในผลอย่างไร ผลลิ้นจี่จึงไม่สร้างเมล็ดขึ้นมา เมื่อไรที่อากาศมีอุณหภูมิหนาวเย็นต่ำกว่า 22 องศา คุณหวัง ก็จะตัดเอาผลอ่อนจากต้นที่กลายพันธุ์จำนวนหนึ่งส่งไปให้ห้องวิเคราะห์ทางเคมี เพื่อวิจัยค้นหาว่ามีสารอะไรเกิดขึ้นผิดไปจากผลที่มีเมล็ด แล้วทำการสังเคราะห์สารชนิดนั้นฉีดพ่นลงบนช่อดอก โดยมิพักต้องแยแสกับอุณหภูมิความหนาวเย็นของอากาศอีกเลย ปรากฏว่าได้ผลแฮะ ต้นลิ้นจี่ที่ได้รับการฉีดพ่นสารที่สังเคราะห์บนช่อดอก ผลที่เกิดขึ้นนั้นปราศจากเมล็ดแทบทุกผล เมื่อเป็นดั่งนี้ คุณหวังจึงรวบรวมต้นลิ้นจี่ที่สามารถกลายพันธุ์ได้จำนวน 37 ต้น ทำการคัดพันธุ์เรื่อยมา จนกระทั่งสุดท้าย ได้ต้นลิ้นจี่ที่ไร้เมล็ดอย่างถาวร โดยไม่จำเป็นต้องฉีดสารอีกต่อไป (ฉีดสารชักนำบ่อยครั้ง จนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่ากลายพันธุ์ ได้สายพันธุ์ใหม่ที่ไม่มีการพัฒนาเป็นเมล็ด คงมีแต่เนื้อล้วนๆอัดแน่นเต็มผล และคงไม่ใช่การตัดต่อพันธุกรรม (GMO)นะเออ อย่าได้เข้าใจผิดไปล่ะ) หลังจากประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์จนสายพันธ์นิ่งแล้ว คุณหวังได้ยื่นขอจดลิขสิทธิ์ต่อทางการ และทางการก็ได้ตั้งชื่อให้ใหม่เป็น จินเฉิงลี่ 24 ฮ่าว (金澄荔24 号)

คุณหวังเล่าว่า ในปี 1992 ตนได้พบลิ้นจี่ต้นหนึ่งมีผลที่ไร้เมล็ด 2 -3 ผล และอีกต้นหนึ่งมีผลที่ไร้เมล็ดจำนวนหนึ่ง  ในสมองจึ่งเกิดประกายความติด แว๊บ ขึ้นมา ถ้าทำให้ผลลิ้นจี่ปราศจากเมล็ดได้ ก็คงจะทำให้คนนิยมกิน ขายได้ดี มีราคาขึ้นมา เหมือนผลไม้อื่นๆที่ไร้เมล็ดในท้องตลาดทุกวันนี้ และเข้าในว่าการที่ลิ้นจี่ 2 ต้นนี้มีผลที่ปราศจากเมล็ดเกิดขึ้น น่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์ แต่อะไรเล่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ขึ้น ต้องเกิดจากผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเป็นแน่ ดังนั้นจึงไม่รอช้าทำการขยายพันธุ์ขึ้นจำนวนหนึ่ง ทำการปลูกทดสอบ ปรากฏว่า ได้สร้างความผิดหวังให้แก่คุณหวังมาก เพราะมันไม่ได้บังเกิดผลดังที่คาดคิดเอาไว้เลย (ลิ้นจี่ก็ยังคงติดเมล็ดขัดคอเหมือนเดิม) เมื่อทำการพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว สภาพดิน น้ำ ปุ๋ยที่ให้ การจัดการทุกอย่างก็เหมือนกันหมด แล้วทำไมจึงทำให้ต้นลิ้นจี่ให้ผลที่แตกต่างกันได้ (มีเมล็ด) จึงทำให้คำนึงถึงสภาพของอากาศ (อุณหภูมิ) ขึ้นมา และลงมือจดบันทึกความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในอากาศช่วงที่มีการติดดอก ผสมเกสร  โดยมิได้ขาด แล้วก็พบความแตกต่างที่คิดว่า น่าจะเป็นสาเหตุให้ลิ้นจี่เกิดการกลายพันธุ์ได้ (เกิดเป็นผลที่ไม่มีเมล็ดขึ้นมา) 

จากการคัดต้นแม่พันธุ์ 37 ต้น แล้วชี้วิธีการดังกล่าวข้างต้น ทำให้ได้ลิ้นจี่ไร้เมล็ดสายพันธุ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติที่ดี 5 ประการ นั่นก็คือ 

1. ผลผลิตสูง และสม่ำเสมอ (ทุกปี) ผลผลิตโดยเฉลี่ย 2,500 กิโลต่อไร่ผลผลิตทั้งต้น 
2. ปราศจากเมล็ด 99.99%(เต็มร้อยก็บอกเถอะ อย่าทำเป็นเป็นเหนียมไปเลย คุณหวัง )
3. ผลที่ออกเป็นผลแฝดเกือบทั้งต้น (ปิ้งตี้ลี่จือ) คู่หนึ่งน้ำหนัก 80- 100 กรัม สีเปลือกเป็นสีกุหลาบแดง สวยงาม
4. คุณภาพเป็นเลิศ เนื้อเต็มผล สีขาวมุก เนื้อหวานกรอบ กลิ่นหอม ไม่มีกาก ไม่มีเมล็ด กินแล้วไม่ร้อนใน
5.จัดเป็นผลไม้เสริมสุขภาพ เนื่องจากมีน้ำตาล Fructose มากกว่าผลลิ้นจี่ทั่วไปถึง 30 %เหมาะสำหรับคนอ้วนรับประทาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มของน้ำหนักตัว เนื้อมี lecithinธรรมชาติ1.5 มิลลิกรัม / กรัม ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้สูงอายุที่มีโรคหัวใจและเลือด และเพิ่มความทรงจำให้แก่เด็กวัยเจริญพันธุ์ อีกทั้งยังมี juice seleniumสูง 50กรัม / กก. จัดเป็นผลไม้ ซีลิเนียมสูง ที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน มะเร็งและและโรคอื่นๆได้เป็นอย่างดี

แล้วคุณหวังก็โอ้อวดถึงความพิเศษของลิ้นจี่ไร้เมล็ดนี้ ยังตกผลเป็น ผลแฝด อีกด้วย ทั้งนี้คุณหวังกล่าวว่า โดยธรรมชาติแล้ว ในดอกๆหนึ่งนั้นจะมีรังไข่ 2 รัง หากแต่ว่าจะมีเพียงรังไข่เดียวเท่านั้นที่สามรถพัฒนาเจริญเติบโตเป็นผลต่อไป ส่วนรังไข่อีกชุดหนึ่งนั้นก็จะฝ่อแห้งไป แล้วลิ้นจี่ ปิ้งตี้กว่อ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร คุณหวังบอกว่า อันนี้เป็นนวัตกรรมธรรมชาติที่ตนเองวิจัยคิดขึ้น เรียกว่า สารเปลี่ยนเพศ ทำการฉีดพ่นเมื่อลิ้นจี่ติดดอกสะพรั่ง ทำให้รังไข่ทั้ง 2 รัง สามารถพัฒนาเป็นผล 2 ผล บนฐานก้านดอกเดียวกัน นอกจากนั้นคุณหวังยังคิดค้นสารเปลี่ยนน้ำตาลในผลลิ้นจี่อีกด้วย โดยเปลี่ยนน้ำตาล Sucrose ให้เป็นน้ำตาล Fructose ที่มีแคลอรีต่ำกว่า จึงทำให้กินมากก็ไม่ร้อนใน (ปากเป็นแผล) สารที่ใช้นั้นเป็นปุ๋ยอินทรีย์ทางใบสูตรพิเศษชนิดหนึ่งครับ แล้วต่อไปเป็นอย่างไร ? ต่อไปก็จบรายการครับ 

เกือบลืม เกือบลืมไป คลิปวีดิโอเรื่องนี้คือ 


และอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง (เนื้อหาสาระสำคัญเหมือนกัน)


สวัสดี จะรีบไปซื้อลิ้นจี่แฝดครับ

 




เกษตรไฮเทค

นักวิชาการรู้ แต่ยังไม่กล้าบอก
ปลูกข้าวในทะเลทราย โดยใช้เม็ดทรายเก็บกักน้ำไว้ทำนา
กดเอาไว้ อย่าให้โผล่ขึ้นมาได้ แล้วมันก็จะดีเอง!
กว่าจะเป็นตัวตนของตนเอง ต้องใช้เวลาเดินทางนานร่วม 60 ปี !
เบื้องหลังความสำเร็จรางวัลไวน์เหรียญทองนานาชาติของจีน
เคล็ดลับประหลาดที่ใช้ปลูกข้าวได้ผลดีเหลือเชื่อ
GMO
คาร์บอนไดออกไซด์ทำให้คุณภาพซากสุกรดีขึ้น
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อีกแล้ว
จ่าวหลานต้านไป๋ (藻蓝蛋白 / Algal blue protein) article
เอ๊ะ ทำได้อย่างไร ?
คุณเชื่อหรือไม่ ปลูกต้นไม้ในทะเลทราย 10 วินาที ต่อ 1 ต้น อัตราการรอดสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์?
มหันต์ภัยเงียบก่อหายนะกำลังเผยตัวปรากฏให้เห็นแล้วอย่างชัดเจนในผืนแผ่นดินเพาะปลูก
ยาสูบมีโทษต่อร่างกาย ผู้เสพอาจถึงตายได้ แต่ ... นักวิทยาศาสตร์กลับนำมันมารักษาชีวิตคน ! article
ถึงเวลายาเคมีเกษตรต้องยาตราถอยทัพ
ยาเคมีหรือ ถอยให้ห่างไกลไปเลย
สารตัวนี้แหละที่ช่วยเร่งอัตราการสังเคราะห์แสงในพืช article
จุลินทรีย์ แบซิลลัส ซับทิลิส article
116 肥 ไม่เชื่อไม่ได้แล้ว ! ไม่ใช้ก็คงไม่ได้แล้ว (เหมือนกัน) article
คุณเข้าใจ และ ตระหนักถึงความสำคัญของ article
อุปกรณ์ที่จะช่วยชาวไร่ข้าวโพดขายผลผลิตได้ราคาสูงขึ้น article
ผลลัพธ์ที่ปรากฏให้เห็นโดยไม่ได้ตั้งใจ article
โปรตีนอะไรที่สร้างความต้านทานโรคพืชได้ article
จ้าว หย่งเลี่ยง คนเยี่ยงนี้ยังมีอยู่หรือ ?
ไก่เบตงมาจากไหน ? ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่นี่นี้เอง ?
ฟูเซียวเฝิ่นน่า (复硝酚钠)
จากเมล็ดพันธุ์ 3 เมล็ดสุดท้าย สู่อาณาจักร มาคา - ไวอะกร้า ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ article
ผลผลิตรากบัว จาก 4,800 กก. ต่อไร่ เพิ่มเป็น 14,400 กก. ต่อไร่ ทำได้อย่างไร ?
เอาผงชูรสมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ย เพิ่มผลผลิตได้เท่าตัว
นี่มันลูกแตงโมนะ ไม่ใช่ลูกโบว์ลิ่ง article
อะไรเอ่ย ทั้งแข็งทั้งอร่อย article
ต้นไม้ที่ผลิตเกลือแกง article
หมูที่เลี้ยง-ขุนด้วยหนอนแมลงวัน คุณกล้ากินไหม ? article
แต้มจุดสีแดงบนใบข้าวเพื่อ .... article
อะไรนะ มีด้วยหรือ ปุ๋ยอากาศน่ะ ! article
หนานอวี้ เบอร์ 1 article
หนุ่มสติเฟื่องเพาะพันธุ์ เหรยินเซินกว่อ article
สวนเกษตรสาธิตไฮเทคระดับประเทศแห่งเมืองเทียนสุ่ย article
ต่าหังเทียนผาย เจ่าสวินฮว๋านลู่ ช่วงเจียกงเอยี๊ยะ ต้ายหนงหมินฝู๋ article
ศักราชใหม่ของเกษตรกรจีน article
ถ้าคุณต้องการเลี้ยงกุ้ง ปูปลา และสัตว์น้ำอื่นๆให้ได้ผลดี article
มะละกออวกาศ article
สัตว์ที่คนไทยเราขยะแขยง ประหวั่นพรั่นพรึง article
เอายอดมะระมาเสียบตอบวบดีอย่างไร ? article
หมาวฮวามี่เหาถาว 毛花猕猴桃 สายพันธุ์ใหม่ วอลเท่อร์ (华特 / Walther) article
สวี ไหว่จง (徐 伟忠) article
กุหลาบ 7 สี หรือ กุหลาบสายรุ้ง 彩虹玫瑰 article
วิธีไหนดีกว่ากัน? article
ไก่เหวินชาง (อีกแล้ว) article
เตาแก๊สเกษตร article
มู่กวา (木瓜) article
เริ่มแล้ว อลังการยิ่งใหญ่ตระการตาน่าชมชื่น article
นี่ก็ใช่เหมือนกัน article
ปลูกข้าวในทะเลทรายโกบี ? article
ปลูกมันฝรั่งในอากาศ article
จินกวา หรือ หนานกวา ? article
ไก่เนื้อที่ขึ้นชื่อลือชาว่ารสชาติอร่อยที่สุดในเกาะไหหลำ article
ไปเทียว ห่ายหนานต่าว (เกาะไหหลำ) article
อยี่ หวงหวาง จิน article
ข้าวไผ่ article
นาโนเทคโนโลยีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ article
เต้าเกอ article
พริก พริก พริก ที่นี่มีแต่พริกทั้งนั้น article
นาซี 778 ขจรขจายทั่วผืนแผ่นดินจีน article
แตงโมอวกาศมาที่รอคอย ถึงเวลาปลูกให้ลิ้มชิมรสแล้ว article
ผลิตภัณฑ์ใหม่ทางการเกษตรที่ทรงประสิทธิภาพในประเทศจีน article
ไข่มุกดำที่มีรสชาติแสนโอชา article
อาหารดัดแปรพันธุกรรมปลอดภัยหรือไม่ ? article
เบิ่งมองการเกษตรประเทศจีน article
สบู่ดำที่เกาะห่ายหนาน article
เอทานอลจากต้นข้าวโพด article
หญ้าที่โตเร็วที่สุดในโลก article
ข้าวหอมสายพันธุ์ใหม่ที่กว่างซี article
ตลาดผัก-ผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน article
เตาแก๊สแรงดันสูง (เตาฟู่) ที่ประหยัดแก๊สถึง 2 ขั้นตอน article
การผลิตพันธุ์ข้าวลูกผสมทำได้อย่างไร ? article
อาร์ติโชค (artichoke) article
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ไข่ไก่ article
เตาแก๊สชีวมวลประสิทธิภาพสูง article
เตาผลิตแก๊สจากไม้ฟืนและเศษเหลือทิ้งจากพืชไร่ article
ขโมยวัวข้าหรือ ? บอกได้เลยว่า ยากซ์........ซ article
แบตเตอรี่เก่า อย่าเพิ่งเปลี่ยน หรือ โยนทิ้งไป article
ซื้อแต่เตา แล้วมีแก๊สใช้ตลอดไป ! article
เครื่องดำนาขนาดเล็ก article
ต้นมะเขือออกผลเป็นไข่ไก่ ? article
เดินทางเยี่ยมเยือน เฉิงตู นครแห่งไม้ดอก article
เว็บไซท์ทางการของจีน article
นิทัศน์การแสดงสินค้า-อุปกรณ์และเทคโนโลยีการเก็บรักษาความสดผลผลิตทางการเกษตรนานาชาติครั้งที่สอง article
เสื้อผ้าที่ถักทอตัดเย็บมาจากไม้ไผ่ article
พันธุ์ถั่วฝักยาวอวกาศ article
ผลไม้เมืองร้อนในมุมมองของคนจีน III article
ของจริง มิใช่ของปลอม article
ฟักแฟง 9 ผล ราคาเหยียบ ห้าหมื่นบาท ! article
ผลไม้เมืองร้อนในมุมมองของคนจีน II article
ผลไม้เมืองร้อนในมุมมองของคนจีน article
ปลาอะไรเอ่ย มีราคาแพงที่สุดในโลก ? article
ข่าวดี article
ข้าวโพด มันฝรั่ง ที่สร้างภูมิคุ้มโรคได้ article
บอกอำลาควันไฟไปได้เลย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
Welcome to Eco-agrotech.com Photo Albums
Google