หมายเหตุ :
ประเทศจีน ยกเว้นเกาะห่ายหนาน (มณฑลไหหลำ) มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) อยิ๋นหนาน (ยูนนาน) ที่อยู่ในเขตุทางใต้ที่มีอากาศค่อนไปทางอบอุ่นของประเทศจีน พื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่จะทำกันในโรงเรือน เนื่องจากจีนมีอากาศหนาวเย็น จึงต้องปลูกในโรงเรือน เมื่อเปรียบเทียบกับการเพาะปลูกของเกษตรกรไทยแล้ว เกษตรกรไทยทำงานสบายกว่ากันเยอะ เพราะไม่ต้องคอยมาเปิดปิดม่านคลุมหลังคาโรงเรือนทุกค่ำเช้า (วันละ 2 หน เช้าเปิดให้แดดส่อง เย็นปิดเพื่อปกป้องอากาศหนาวเย็นยามค่ำคืน) ถ้าย่างเข้าฤดูหนาว ก็ต้องจุดไฟเตาให้ความอบอุ่นกับพืชที่ปลูก ส่วนเกษตรกรพี่ไทยเรานั้น เช้าออกไปทำงาน ลุเที่ยงก็แบกจอบกลับมานอนบ้านแล้ว ตกเย็นก็ตั้งวงก๊งเหล้าขาวกันเป็นกิจวัตร หาได้ใส่ใจงานการอย่างประณีตไม่ (ปลูกพืชไร่หลังเก็บเกี่ยวข้าว ไม่ได้หวังผลผลิตที่ควรจะได้ ไม่ได้ใส่ใจดูแลจริงจัง ถ้าได้ผลก็เก็บเกี่ยวเอาผลผลิต ถ้าไม่ได้ผลก็ถือว่าปลูกเพื่อทำเป็นปุ๋ย ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง) เกษตรกรไทยชอบงานสบาย (ไม่อยากบอกดอกนะว่าขี้เกียจ) ชอบอะไรที่มันสะดวก ง่ายๆ อย่างถ้าบอกว่าควรแช่เมล็ดด้วยน้ำอุ่น จะช่วยความงอกได้ดีกว่า พี่ท่านไม่สนใจทำดอก ไปเสียเวลา
ต้มน้ำทำไม แช่น้ำเย็นนี่แหละดีแล้ว (ว่าแล้ว ไหมล่ะ)
ประเทศไทยเราเป็นประเทศร้อนชื้น แมลง โรคพืช สาระพันมี โดยเฉพาะแมลง จึงสร้างโรงเรือนมุ้งตาข่ายเพื่อหวังแก้ปัญหา ปัญหาแมลงก็พอแก้ได้เปลาะหนึ่ง แต่แมลงในดินนั้นกันไม่ได้ แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ พืชผักเน่าด้วยโรครา เพราะความชื้นสูง อากาศไม่ถ่ายเท ทำไปก็ได้ไม่คุ้มเสีย แต่ถ้าสามารถนำเอาเทคโนโลยี สนามไฟฟ้า
นี้มาปรับใช้ ปัญหาต่างๆก็คงหมดไป ซำบาย ซำบาย ง่ายๆแบบที่เกษตรกรไทยเราชอบนั่นไง
นอกจากนั้น อุปกรณ์สร้างสนามไฟฟ้าชุดนี้ยังนำไปประยุกต์ใช้งานได้อีกมากมายหลายกระทง เช่นนำไปติดตั้งในพื้นที่ห้องสูบบุหรี่ก็สามารถกำจัดควันและกลิ่นได้ในเวลาอันรวดเร็ว ติดตั้งในห้องน้ำสาธารณะก็สามารถขจัดกลิ่นและปลดปล่อยโอโซนสร้างอากาศที่สดใสขึ้น อุปกรณ์ชุดนี้ไม่เพียงแต่ใช้ได้ในโรงเรือนเท่านั้น ยังใช้ในบรรยากาศที่เปิดโล่งได้อีกด้วย
ของแถมก่อนจาก :
การค้นหาข้อมูลด้านการเกษตรของจีนนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การที่จะมานั่งแปลแลพากย์เป็นภาษาไทยนั้นต้องใช้เวลาค่อนข้างมากอยู่ เนื่องจากบางครั้งเป็นศัพท์ทางวิชาการที่ไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน แต่ก็อยากจะให้เกษตรกรไทยและผู้สนใจได้รับรู้ความเป็นไป และพัฒนาการความก้าวหน้าทางด้านการเกษตรของประเทศจีนว่า พัฒนาก้าวหน้าไปเร็วแค่ไหน มีวิธีการอย่างไรที่สามารถผลักดันให้เกษตรกรของเขาปรับตัวได้เร็วขนาดนั้น ประการแรกสุดก็คือ ความจริงใจในการช่วยเหลือของรัฐบาล ประการต่อมาก็คือบุคลากรของเขามีความตั้งใจจริงในการทำงานบริการประชาชน (ด๊อกเตอร์หรือนักวิชาการจีนไม่วางตัววิเศษวิโสเหมือนนักวิชาการบ้านเรา ทำตัวตีนติดดินเหมือนประชาชนทั่วไป) ประการที่สามเกษตรกรจีนจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีการแชร์ความรู้ใหม่ๆให้แก่กัน บางครั้งผู้ที่มีความรู้ดีกว่า มีทักษะดีกว่า มีประสบการณ์มากกว่า มีฐานะร่ำรวยกว่า ยอมเสียสละกำลังทรัพย์จัดตั้งคอมมูน (ที่เราเรียกว่า สหกรณ์นั่นแหละ) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรด้วยกันในการก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
ที่กล่าวมานี้มิใช่ของแถมนะครับ ของแถมท้ายบทอยู่ที่นี่ครับ เป็นรูปภาพที่ผู้เข้าชมงานแสดงนิทัศน์การ การเกษตรพืชผักประจำปี 2013 (ครั้งที่ 14) ที่เพิ่งผ่านมานี้ของเมือง เซ่ากวง
มณฑลซานตง (山东) เป็นมณฑลเมืองที่ผลิตผักป้อนประเทศเกือบครึ่งค่อนประเทศเลยทีเดียว ผู้บันทึกภาพ เก็บภาพได้สวยงามน่าชม เข้าไปชมได้เลยครับที่