ReadyPlanet.com
dot dot
dot
นาซี 778 [Nashi 778]
dot
bulletรู้จักนาซี 778
bulletคุณสมบัติ
bulletประสิทธิภาพ
bulletวิธีใช้นาซี 778
bulletข้อควรระวัง
bulletทฤษฏี กลไก และ บทบาท
bulletขนาดและราคา
dot
นาโน 863 [Nano 863]
dot
bulletรู้จักนาโน 863
bulletประสิทธิภาพ
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการเพาะปลูก
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการปศุสัตว์
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการเห็ด
bulletขนาดและราคา
dot
นาโนบอล [Nano Ball]
dot
bulletรู้จักนาโนบอล
bulletวิธีใช้นาโนบอล
bulletราคา
dot
นาโนสทีค [Nano Stick]
dot
bulletรู้จักนาโนสทีค
bulletราคา
dot
Download Brochures
dot
bulletโปรชัวร์นาซี 778 และนาโน 863
dot
Photo Albums
dot
bulletอัลบั้มรูปผลผลิตต่างๆที่ได้จากนาซี 778
dot
รายงานผลการใช้ผลิตภัณฑ์
dot
bulletสารสมุนไพรนาซี 778
dot
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
dot
bulletหมวดหมู่สินค้า
dot
ตะกร้าสินค้า
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
bulletยืนยันการโอนเงิน
bulletตรวจสอบสถานะสั่งซื้อสินค้า
dot
สมัครรับข่าวสาร

dot


Go to Nanosoeasy.com
Nano 863 Video Clip #1
Nano 863 Video Clip #10
Nano 863 Video Clip #9
Nano 863 Video Clip #8
Nano 863 Video Clip #7
Nano 863 Video Clip #6
Nano 863 Video Clip #5
Nano863 Video Clip #3
Nano 863 Video Clip #2


จ้าว หย่งเลี่ยง คนเยี่ยงนี้ยังมีอยู่หรือ ?

 

จ้าว หย่งเลี่ยง (赵永亮) ร่ำรวยมีทรัพย์สินเป็นพันล้าน เขาคือนักธุรกิจหัวก้าวหน้าที่น่าทึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคม (จีน) ว่ามีความสามรถที่ชวนให้พิศวงเป็นอย่างยิ่ง จากธุรกิจค้าขนแกะ ทำเหมืองแร่ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โลจิสติก โรงแรม กิจการทุกด้านล้วนเฟื่องฟู จนกระทั่งเกิดหักเหเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน เมื่อเขาหวนรำลึกถึงอดีตชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้งอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน ธุรกิจงานการที่เขามุ่งมั่นจะดำเนินการต่อไปข้างหน้านั้น สะท้านถึงหัวอกของนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญด้านขีปนาวุธของจีน ที่ชื่อว่า เฉียน เซวียะเซิน (钱学森) เรื่องราวที่จะบอกเล่าต่อไปนี้ กล่าวถึงวิถีชีวิตของคนคนหนึ่ง ที่มีทัศนคติความคิดต่อชีวิตและผู้คนในสังคมที่น้อยคนนักจะมีเหมือน เขาผู้นั้นคือ คุณจ้าว หย่งเลี่ยง(赵永亮) เขามีทัศนคติต่อชีวิตและสังคมอย่างไร บุคคลเฉกเช่น จ้าว หย่งเลี่ยง นี้จะมีให้เห็นในบ้านเมืองเราบ้างไหม? (ซักคนก็ยังดี)

ชีวิตในวันเยาว์ของเขาที่ เมืองเอ้อเอ่อตวัวซือ (鄂尔多斯 /Ordos) มองโกเลียในของประเทศจีน ฐานะทางครอบครัวยากจนจนจนกระทั่งเนื้อแกะก็ไม่เคยลิ้มลอง แม้จะอยู่ในท่ามกลางฝูงแกะก็เถอะ ความกระหายอยากของเขาทำให้เขาไปแอบยืนอยู่ใต้ลม เพื่อสูดดมกลิ่นอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อแกะที่ล่องลอยมาตามสายลมจากห้องครัวของเพื่อนบ้าน ช่างน่าเห็นใจกระไรเช่นนั้น แต่โชคชะตาคงไม่โหดร้ายไปกับเขาชั่วชีวิต สำหรับคนที่สู้ชีวิตอย่าง จ้าว หย่งเลี่ยง หัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชมยกย่องไปทั่วทั้งประเทศ เขาทำอย่างไร เขาทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้าง ติดตามดูได้ที่

http://tv.cntv.cn/video/C10463/517ea1a72419415e898ef77e8af14740
(คลิปแรก)

http://tv.cntv.cn/video/C10463/6de52ad697764c14b16729f79eb78804
(คลิปหลัง)

 

 ประธานกรรมการ จ้าว หย่งเลี่ยง

ประธานกรรมการ จ้าว หย่งเลี่ยง

รองประธานกรรมการ จ้าว หย่งหมิง

รองประธานกรรมการ จ้าว หย่งหมิง

สรุปรายงานผลงานปี 2012 และ งานฉลองเปิดงานปี 2013

สรุปรายงานผลงานปี 2012 และ งานฉลองเปิดงานปี 2013

คุณจ้าวอธิบายโครงการของ เมืองเกษตร เฟิงสุ่ยเหลียง

คุณจ้าวอธิบายโครงการของ เมืองเกษตร เฟิงสุ่ยเหลียง

 

เริ่มฉากแรกที่เห็นก็คือเขาละ คุณจ้าว หย่งเลี่ยง ภาพที่เห็นบรรยายถึงภาพบ้านเกิดของเขาในอดีต (ผุพังไปแล้ว) เขาพูดถึงชีวิตในหนหลัง มันรันทดจนทำให้เขาอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ ภาพตัดต่อถัดมากล่าวถึงธุรกิจต่างๆที่เขาสร้างขึ้นมา และน้องชายของเขา จ้าว หย่งหมิง (赵永明) ได้คัดค้านโครงการใหม่ของผู้พี่ว่า มันไม่มีโอกาสเป็นไปได้โดยเด็ดขาด และภาพได้ตัดต่อโยงไปถึงบุคคลคลคนหนึ่ง ที่ได้ตอบจดหมายให้กำลังใจแก่เขา บุคคลผู้นี้เป็นนักวิยาศาสตร์ทางขีปนาวุธและจรวจสู่อวกาศของจีน นามว่า เฉียน เซวียะเซิน (钱学森) แล้วภาพก็ฉายย้อนไปในอดีตที่ประชาชนชาวจีนทั้งแผ่นดินไชโยโห่ร้องกระโดดโลดเต้นด้วยความปิติยินดี ที่ประเทศประสบกับความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธ ระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรก แต่คุณเฉียน ได้เคยให้ความเห็นว่า เขาไม่เห็นด้วยที่ (อเมริกา รัสเซียหรือจีนก็ตาม) แข่งขันกันพัฒนายานจรวดเดินทางไปในอวกาศ (ดวงจันทร์ หรือดาวอังคาร) เพื่อสำรวจหาพื้นที่อาศัยแหล่งใหม่นอกโลก เขากล่าวว่า ทำไมเราจึงไม่ทำในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา บนโลกเราใบนี้ยังมีผืนดินทะเลทรายที่เวิ้งว้างสุดลูกหูตาอยู่จำนวนมาก ทำไมจึงไม่หาหนทางพัฒนาปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประโยชน์ เหตุใดจึงต้องทุ่มเทเงินทองดั้นด้นไปค้นหาผืนแผ่นดินอันห่างไกลที่เรายังไม่รู้จักให้สิ้นเปลืองไปโดยไม่มีความชัดเจนด้วยเล่า

คณะผู้ถ่ายทำได้เดินทางไปกับคุณจ้าว ไปดูบ้านเกิดของเขาที่สมาชิกครอบครัวทั้งหมด 6 คน (พ่อ แม่ พี่สาว 2 คน ตัวเขาเอง และน้องชายอีก 1คน) อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ปัจจุบันผู้คนที่อาศัยอยู่ทั้งหมู่บ้านได้ย้ายไปอยู่สถานที่แห่งใหม่ที่เขาจัดให้ เป็นเมืองใหม่ที่เขาสร้างขึ้นในทะเลทราย (สร้างแล้วยกให้ฟรี) เขาเล่าให้นักข่าวสาวฟังว่า เมื่ออายุ 14 ปี เขาได้เดินทางไปยังตลาดซื้อ-ขายแกะ เขาประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ผู้จัดซื้อ - ขายที่นี่สามารถคาดเดาน้ำหนักตัวแกะได้อย่างแม่นยำ การซื้อขายแกะที่แห่งนี้ไม่ต้องผ่านตาชั่ง เจ้าหน้าที่ดูด้วยตา ลูบคลำตัวแกะกับมือก็สามารถตีน้ำหนักของแกะแต่ละตัวได้อย่างถูกต้อง (บอกได้ถูกต้องว่าน้ำหนักตัวแกะเท่าไร เชือดฆ่าแล้วได้น้ำหนักเนื้อเท่าไร ได้ขนเท่าไร ได้ เส้นใยขนแคชเมียร์เท่าไรอีกด้วย) ทุกครั้งที่เขาต้อนแกะมาขายที่นี่ ซึ่งต้องใช้เวลาร่วม 6 วัน ในช่วง 6 วันนี้ เขาก็แอบศึกษากลวิธีการกะเก็งน้ำหนักแกะอย่างเงียบๆ โดยจดลงในสมุดทำการเทียบเคียงกับพนักงานที่นี่ แรกๆก็ได้ผลแย่หน่อย แต่หลังจากนั้น เขาทำได้ดีกว่าพนักงานที่นี่เสียอีก (ดูแม่นกว่า)

ต่อมาเขาได้สมัครมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ซื้อ –  ขายแกะที่ตลาดแห่งนี้ เกิดปัญหาขึ้นครั้งแรกทันทีที่เขาเริ่มงานในหน้าที่ แต่เหตุการณ์นั่นกลับทำให้ชื่อเสียงเขาโด่งดังไปทั่ววงการ เนื่องด้วยมีเจ้าของแกะรายหนึ่ง ไม่เชื่อในความสามารถของเขา กลัวว่าจะตีน้ำหนักแกะของเขาไม่ถูกต้อง (ตีน้อยไป)ด้วยเห็นว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ จึงเกิดการท้าพนันขึ้น ผลปรากฏว่า ตัวเลขที่เขาคาดคะเนนั้นถูกต้องแม่นยำกว่าผู้ท้าพนัน (จ้าวตีน้ำหนัก 19 กิโลกรัม เจ้าของแกะผู้ท้าตีไว้สูงกว่า 3 กิโลกรัม คือ 22 กิโลกรัม เมื่อทำการชำแหละแกะตัวที่คัดไว้ ปรากฏว่าน้ำหนักที่แท้จริงคือ 18.6 กิโลกรัม)จึงทำให้เขามีชื่อกระฉ่อนในเวลาอันสั้น เมื่อเขาอายุได้ 31 ปี ก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจค้าขนแกะ (โดยเฉพาะขนที่เรียกว่า Cashmere ทำเงินให้กับเขามหาศาล) ฐานะร่ำรวยขึ้นทันตาเห็น ในปี 1988 เมื่อจ้าวอายุได้ 33 ปีก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้อำนวยการกลุ่มบริษัท อี้เอ่อตวัวซือ (鄂尔多斯控股集团/ Ordos Holding Group)

ในวงการค้าขนแกะ (แคชเมียร์) กล่าวกันว่า ถ้าผู้ใดได้ตัว จ้าว หย่งเลี่ยงมาร่วมบริหารงาน โอกาสที่จะทำกำไรร้อยล้าน หรือพันล้านนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ผลประกอบการของ กลุ่มบริษัท อี้เอ่อตวัวซือ 30 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นเครื่องพิสูจน์คำบอกเล่านี้ได้เป็นอย่างดีผลงานอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ จ้าว มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันในโลกของขนสัตว์ แคชเมียร์ ก็คือ หนังสือที่เขาร่วมกันแต่งขึ้นกับผู้ช่วยของเขา จาง เฉวียนเสียง (张全祥) หนังสือชื่อว่า  ซานหยางหรงหมาวเซวีย (山羊绒毛学 /  วิชาว่าด้วยขนแคชเมียร์ของแกะภูเขา) เป็นหนังสือเล่มแรกที่เขียนถึงรายละเอียดต่างๆของแกะ พร้อมทั้งเทคนิคต่างๆในการคัดเลือกขนแกะ ขนแคชเมียร์อย่างครบครัน และเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่มีอยู่ในโลกเวลานั้น คุณจ้าวบอกว่า หากคุณได้ศึกษาจากหนังสือเล่มนี้แล้ว คุณก็จะไม่ถูกหลอกต้มอีกต่อไป คุณจะสามารถแยกแยะขนแกะได้ว่าอันไหนแท้ อันไหนย้อมแมว รวมทั้งแยกได้ว่าขนที่ได้มานั้นได้มาจากแกะตัวผู้หรือแกะตัวเมีย ได้มาจากแกะที่ตายแล้วหรือจากแกะที่ยังมีชีวิตอยู่

 

 ดอกของต้นซาหลิ่ว

ดอกของต้นซาหลิ่ว

ต้นซาหลิ่วที่ขึ้นอยู่ในทะเลทราย

ต้นซาหลิ่วที่ขึ้นอยู่ในทะเลทราย

แตกกอใหม่

แตกกอใหม่

 

ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้ขนแกะแคชเมีย์ อี้เอ่อตวัวซือ โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกก็เนื่องด้วยเสื้อที่ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรสวมใส่นั้นสั่งซื้อไปจากที่นี่ ทำให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าขนสัตว์ที่นี่เป็นที่ต้องการของนานาประเทศ จนขาดแคลนวัตถุดิบ ก่อให้เกิดการแย่งชิงซื้อขายกันในราคาสูง ทำให้ผู้ประกอบการมีผลกำไรไม่น้อยว่า 80 – 85 %

ในปี 1988 มีเหตุการณ์ที่เศร้าใจ ก่อความสะเทือนใจให้กับเขาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เขาเกิดความคิดหักเห ต้องการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินความคาดคิดของผู้คน โครงการที่เขาเสนอไปนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ต่างไม่เห็นด้วย และต่างพูดกันว่า คุณจ้าวคงจะเพี้ยนไปเสียแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ เขาได้สูญเสียคุณแม่ไป วันที่เขากลับไปบ้านเพื่อทำพิธีเคารพศพนั้น เขาได้ซื้อเครื่องขยายเสียงติดไปด้วย ตั้งใจว่าจะเปิดเพลงอาลัยให้ได้ยินทั่วกัน แต่เขาลืมไปว่า ที่ชนบทแห่งนี้ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทำให้เขารำพึงรำพันว่า ทำไมหนอ บ้านเกิดเราแห่งนี้จึงลำบากยากจนเสียจริง แม้แต่ไฟฟ้าก็ไม่มีจะใช้ หากเรานิ่งเฉยไม่แยแส ก็เท่ากับเราเป็นหมีตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าเราพัฒนาสร้างความเจริญขึ้นมา ทำให้ชาวบ้านมีชีวิตอยู่สุขสบายเท่าเทียมกับผู้คนถิ่นอื่นๆ นั่นแหละคือยอดคน เมื่อคิดได้ดังนี้ คุณจ้าวจึงตัดสินใจแน่วแน่ที่จะทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับความมุ่งมั่นอันนี้ ดังนั้นในปี 1990 จึงตัดสินใจทิ้งตำแหน่งรองผู้อำนวยการแห่ง Ordos Holding Group (鄂尔多斯控股集团) ตั้งต้นธุรกิจของตนเอง เพื่อที่จะได้นำเงินผลกำไรมาดำเนินการโครงการที่ตั้งใจไว้

ในเวลานั้นชื่อเสียงของจ้าวกำลังหอมฟุ้ง ใครๆก็ต้องการให้เขามาร่วมบริหารกิจการ มีบริษัทมากมายหลายแห่งต่างเสนอตำแหน่งงานให้กับเขาพร้อมผลตอบแทนก้อนใหญ่ เขากลับไม่แยแส แต่กลับเดินทางไปเมือง ต้าเหลียน (大连) ตรงดิ่งไปหาเจ้าของกิจการขนาดย่อมที่เข้ามาลงทุนในประเทศจีน เป็นสตรีชื่อว่า ถัง แยว่หลิน (唐悦淋) ที่ยินดีให้เขายืมเงิน 200,000 ดอลลาร์ไปก่อสร้างโรงงานทอเสื้อขนแกะที่ทะเลทรายอันเป็นถิ่นที่บ้านเกิดเมืองนอนของเขานั่นเอง โดยที่เขาจะอาสาเข้ามาบริหารงานให้กับคุณถัง ก่อนหน้าที่คุณจ้าวจะมารับงานนั้น ตัวเลขจากการขายสินค้านั้นอยู่ที่ 800,000 ดอลลาร์ต่อปีเท่านั้น หลังจากที่คุณจ้าวได้เข้ามาบริหารงานแล้ว 3 ปี ตัวเลขการขายต่อปีพุ่งทะยานกว่า 30 ล้านดอลลาร์ และแล้วในปี 1996 คุณถังที่มีอายุ 70 ปี ต้องการเกษียรตัวเองกลับไปปักหลักที่ประเทศคานาดา จึงโอนกิจการให้กับจ้าว และขอให้คืนเงินที่ได้ยืมไปเท่านั้นก็พอ แต่จ้าวตอบปฏิเสธว่า หามิได้ บุญคุณนี้ต้องตอบแทน ตกลงเป็นว่าผมจะจ่ายเงินให้คุณถัง ปีละ 500,000 ดอลลาร์ เป็นเวลา 20 ปี (ซึ่งได้จ่ายให้ไปแล้ว 17 ปี คงเหลืออีกเพียง 3 ปีเท่านั้น)

ภายหลังที่ได้เข้ามายึดกุมเป็นกิจการของตนเองแล้ว เขาทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง พันล้านดอลลาร์ได้ภายใน 2 ปีเท่านั้น ในปี 2000 จากนั้นก็เป็นปีทองของสินค้าเสื้อขนแกะของเมืองอี้เอ่อตวัวซือ ทำให้เขาทุ่มลงทุนขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โลจิสติก และปลายปี 2001 นั้น เขามีเหมืองถ่านหิน 3 เหมือง บริษัทอสังหา ฯ 6 แห่ง โรงแรม 5 โรง รวมเป็นทรัพย์สินร่วม สามพันล้าน และในปี 2001 เขาตัดสินใจทุ่มทุน 300 ล้าน เพื่อดำเนินโครงการ แผนความมั่งคั่งเมื่อได้ประกาศโครงการออกไป ก็ทำให้เกิดการคัดค้านอย่างแข็งขันจากบรรดาผู้ถือหุ้นและน้องชายเขาก็เกือบขอแยกทางเดินกับเขา โครงการที่ว่านี้ก็คือ ปลูกต้น ซาหลิ่ว (沙柳 / พืชทนแล้งในทะเลทรายชนิดหนึ่งที่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อันใดได้เลย 沙柳 นอกจากทำฟืน) ในทะเลทราย 42,000 ไร่ แล้วคุณจ้าวเขาดีดลูกคิดอะไรอยู่ ?

 

 ซาหลิ่วที่บรรจงปลูก

ซาหลิ่วที่บรรจงปลูก

ต้นซาหลิ่วที่โตเต็มที่

ต้นซาหลิ่วที่โตเต็มที่

ตัดรวบรวมส่งโรงงานไฟฟ้า ชีวมวล

ตัดรวบรวมส่งโรงงานไฟฟ้า ชีวมวล

นำไปผลิตไฟฟ้าเขียว

นำไปผลิตไฟฟ้าเขียว

 

เมื่อคุณจ้าวเสนอโครงการนี้ต่อคณะกรรมการบริษัทฯ ทุกคนต่างไม่เห็นด้วย รวมทั้งน้องชายร่วมสายโลหิตของเขาก็เดินหนี โดยได้ให้ความเห็นว่าเอาเงินมาละเลงลงในทะเลทราย แล้วจะได้ผลประโยชน์จากตรงไหนกลับคืนมา   แล้วเหตุอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้จ้าวหันมาสนใจพัฒนาฟื้นฟูทะเลทราย ทั้งนี้จากทัศนคติความเห็นของบุคคลที่เขาเคารพชื่นชม บิดานิวเคลียร์ของจีน เฉียน เซียะเซิน ที่เป็นบุคคลแรกสุดในการเสนอให้รัฐบาลลงทุนวางโครงการระยะยาว 100 ปี ทำการฟื้นฟูทะเลทรายโกบีที่กว้างใหญ่ หาหนทาง ทำการวิจัย ปรับปรุงให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ คุณจ้าวจึงได้เขียนจดหมายขึ้นหนึ่งฉบับ  ส่งไปถึงท่านเฉียน ขอคำสนับสนุนให้แก่เขาด้วย และแล้วสิ่งที่ทำให้เขาลิงโลดใจเป็นที่สุดก็คือ จดหมายตอบจากท่านเฉียนวัย 91 ที่กำลังนอนป่วยบนเตียงด้วยโรคชราได้กล่าวตอบสนับสนุนเห็นด้วยกับเขาเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่ลังเลใจอีกต่อไป ตัดสินในแน่วแน่ที่จะฟื้นฟูพลิกผันทะเลทรายให้กลับกลายมาเป็นผืนดินเพาะปลูกทางเหนือให้สำเร็จจงได้ จากเวลาที่ผ่านมา 2 ขวบปี จ้าว หย่งเลี่ยงได้นำเหล่าคนงานตะลุยปลูกต้น ซาหลิ่ว ในผืนทะเลทรายร่วม 200,000 โหม่ว และเมื่อต้นซาหลิ่วโตเต็มที่ จ้าวก็จ้างชาวบ้านมาทำการตัดโค่นทิ้ง เอ๊ะ นี่เล่นอะไรกันอยู่หรือ จ้างคนปลูก แล้วก็มาจ้างคนตัด จ้าว หย่งเลี่ยงอธิบายว่า ต้นซาหลิ่ว หากไม่ทำการตัดโค่น ปล่อยให้แก่คาต้น มันก็จะตายไปด้วยอายุที่แสนสั้น แต่เมื่อทำการตัดโค่นให้เรียบราบ เห็นไหม มันกำลังแตกกอใหม่ ทำเช่นนี้สลับกันไป ทำให้ต้นซาหลิ่วมีอายุยืนยาวขึ้น 5 – 7 ปี และเมื่อมีการจ้างปลูก จ้างตัด ก็เท่ากับสร้างงานให้เกิดขึ้น เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน วันหนึ่งๆมีรายได้ร่วม 200 – 300 หยวนเลยทีเดียว

จ้าว หย่งเลี่ยงลงทุนจ้างผู้คนปลูกต้น ซาหลิ่วด้วยเงินทุนตัวเอง แต่เมื่อจ้างคนตัด (ซาหลิ่วของเขาเอง) แต่เขากลับรับซื้อด้วยเงิน 400 หยวนต่อตัน (ซื้อของตัวเอง) เอ ชักเวียนหัวแล้วซี แล้วคุณจ้าว เขาซื้อต้นซาหลิ่วปริมาณมหาศาลกลับมาทำไม ในเมื่อประโยชน์การใช้งานของมันนั้นก็เพียงเป็นแค่ฟืนหุงต้มเท่านั้น (เก็บความสงสัยไว้ แล้วติดตามดูต่อไป) การกระทำของจ้าวนั้น เรียกได้ว่าเกี่ยวเหยื่อล่อปลา เมื่อมีการรับซื้อต้นซาหลิ่วในราคาสูง ก็เกิดแรงจูงใจให้ชาวบ้านปลูกซาหลิ่วรุกเพิ่มเข้าไปในทะเลทรายเรื่อยๆ (เพราะปลูกแล้วขายได้ มีผู้รับซื้อราคาดีด้วยสิ) เท่ากับเป็นการปลูกป่าขึ้นในทะเลทราย อันเป็นการฟื้นฟูผืนดินที่แห้งแล้งให้เป็นผืนดินที่มีความชุ่มชื้น สามารถเพาะปลูกได้ และการปลูกต้นซาหลิ่วในทะเลทรายนั้น ทางการก็ให้เงินสมทบสนับสนุนด้วย ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ (นี่แหละคือโครงการที่เรียกว่าแผนสร้างความมั่งคั่ง !) คุณหวาง เจี้ยนกวั๋ว (王建国) รองผู้อำนวยการเมืองอี้เอ่อตวัวซือกล่าวว่า ก่อนหน้าปี 2000 นั้น พื้นที่อาณาบริเวณรอบขอบเมืองนั้น ทางการดำเนินการปลูกป่าฟื้นฟูเป็นพื้นที่สีเขียวได้แค่ 20 % เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ พื้นที่สีเขียวรายรอบนั้นแผ่ขยายออกไปครอบคลุมพื้นที่กว่า 75 %

โครงการของจ้าวนั้น มิได้เกิดประโยชน์ต่อชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาลอีกด้วย ที่ใช้เงินทุนของตัวเองปลูกซาหลิ่วฟื้นฟูผืนทะเลทรายให้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ชุ่มชื้นอีกครั้ง แล้วต้นซาหลิ่วที่เขารับซื้อคืนมานั้น เขานำไปใช้ประโยชน์อันใด ? คำตอบมีอยู่ในโรงงานหลังเก่าที่เห็นนั่นแหละ เขาได้ซื้อโรงงานเก่ามาปรับเปลี่ยนเป็นโรงงานผลิตกระดาษครับ ในช่วงเวลา 3 ปี เขาผลิตกระดาษได้ สองแสนกว่าตัน คิดเป็นมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้าน ประโยชน์อันที่สองที่เกิดจากต้นซาหลิ่วก็คือ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ จากต้นซาหลิ่วที่ทำเป็นไม้อัดความหนาแน่นสูง ดีไซน์แบบสวยงามส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอเมริกาและยุโรปคุณจ้าวมิได้เปลี่ยนแปลงแค่โชคชะตาของต้น ซาหลิ่ว แต่ยังเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของผืนทะเลทรายไปพร้อมๆกันด้วย

แต่จ้าว หย่งเลี่ยงยังไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขายังคงเดินหน้าขุดคุ้ยขุมทรัพย์แห่งท้องทะเลทราย เขาได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึง โดยได้ขายทิ้งเหมืองถ่านหินทั้ง 3 แห่ง เพื่อนำเงินมาดำเนินโครงการ เมืองเกษตรแห่งท้องทุ่งทะเลทราย ที่สามารถรองรับเกษตรกรได้ถึง 120,000 คน การกระทำของเขาทำให้คนทั่วไปกล่าวว่า สติเขาน่าจะฟั่นเฟือนไปเแล้วจากพายุลมทราย รองผู้อำนวยการบริษัทฯ คุณ จาง ต้วนผิง (张继平) กล่าวว่า พื้นที่แห่งนี้ไม่มีแม้แต่ต้นหญ้า น้ำก็ไม่มี ไฟฟ้าก็ไม่มี อะไรก็ไม่มีซักอย่าง แล้วจะสร้างเมืองเกษตรที่รองรับเกษตรกรได้ถึง 120,000 คนได้อย่างไร พูดเล่นหรือไร ?แต่แล้วในที่สุด จ้าว หย่งเลี่ยงก็ผลักดันดำเนินการโครงการจนสำเร็จ โดยเขาได้ทำการเหมาเช่าที่จากรัฐบาล 45 ตารางกิโลเมตร (ประเทศจีนไม่สามารถซื้อถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้โดยเด็ดขาด แต่สามารถทำเรื่องเช่าได้เป็นเวลา 99 ปี แต่ทั้งนี้ ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เช่าไปเพื่อการใด และต้องดำเนินการจริง หากมิได้ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด ก็จะถูกยึดที่คืน และริบเงินประกันไว้ด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการซื้อที่ดินเก็งกำไร) เขาได้จัดสร้างบ้านพักเป็นหน่วยๆ ยกให้ผู้ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการฟรีๆ อีกทั้งยังลงทุนสร้างอาชีพให้ด้วย

 

 กระต่าย ทาทู่

กระต่าย ทาทู่

กรงเลี้ยงกระต่ายขน ทาทู่

กรงเลี้ยงกระต่ายขน ทาทู่

ขนกระต่ายที่ฟอกแล้ว

ขนกระต่ายที่ฟอกแล้ว

 

แรกๆที่เขาตัดสินใจดำเนินโครงการนี้นั้น ทุกคนต่างก็ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะน้องชายเขา จ้าว หย่งหมิง (赵永明) แต่เขาก็ดันทุรังจนทุกคนต้องยอม หาไม่แล้ว เขาจะฆ่าตัวตาย (ปณิธานแน่วแน่ดังหินผา) และท้ายที่สุดหลังจากได้มีการประชุมที่ทุกคนต้องจดจำไปจนวันตาย นั่นก็คือระหว่างประชุม ไม่อนุญาตให้ใครออกไปไหนทั้งสิ้น  จนลุถึงวันที่สอง ข้าวน้ำก็ไม่จัดให้กิน จ้าวบอกว่าจะไม่เลิกประชุมจนกว่าทุกคนต้องลงมติเห็นด้วยกับเขา ในที่สุดทุกคนต้องยอมตาม เมื่อได้รู้ว่า สิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้ เป็นความตั้งใจที่เขาต้องทำให้สำเร็จก่อนที่จะจากโลกนี้ไป เขากล่าวว่า “คุณอาจจะมีอายุยืนยาวถึงร้อยปี คุณอาจจะร่ำรวยมีเงินมีทองถึงแสนล้าน แต่เมื่อคุณจากโลกนี้ไป คุณเอาอะไรไปได้บ้าง แล้วคุณได้ทำอะไรไว้บ้างในยามที่คุณมีชีวิตอยู่ เงินทองที่คุณหามาได้ มันจะเกิดประโยชน์อะไร ? ”(你活一生啥都没干,活了100岁存了100个亿,最后走了,百年之后怎么给你介绍生平呀,谁谁谁活了100岁,存款100亿,第三句话死了,就这样没有干啥)

จ้าวได้ชักชวนเกษตรกรยากจนที่อาศัยอยู่ถิ่นที่ซึ่งแต่เดิมเรียกว่า เฟิงกานเกอเหลียง (风干圪梁 / ที่มีความหมายว่า หลุมแล้งแห้ง) ไปอยู่หมู่บ้านใหม่ที่เขาสร้างขึ้น และได้เปลี่ยนชื่อสถานที่แห่งนี้ใหม่ให้เป็นมงคลว่า เฟิงสุ่ยเหลียง  (风水梁 / ขื่อคานแห่งฮวงจุ้ย / หมายถึงสถานที่ดีตรงตามหลักฮวงจุ้ย) และแล้วในปี 2006 เดือนกันยายนบ้านพักที่อยู่อาศัยชุดแรกก็แล้วเสร็จ ประกอบไปด้วยพื้นที่ 24 ตารางเมตร และโครงการบ้านพักชุดที่ 2 ก็แล้วเสร็จในปี 2007 ชุดที่ 3, 4 ... ก็ทยอยแล้วเสร็จต่อเนื่องกันไปจนกระทั่งชุดที่ 9 จ้าวได้ป่าวประกาศชักชวนให้เกษตรกรที่ยากจนทั่วทั้งประเทศอพยพมาอยู่ที่หมู่บ้านเกษตรแห่งท้องทะเลทรายที่เขาจัดสร้างขึ้น พร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านครบครัน ยกบ้านให้ฟรีๆ แถมยังจัดหาอาชีพให้ทำ ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ผู้คนต่างก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง ประชาชนจากมณฑลกว่า 12 มณฑลได้เดินทางมาดูข้อเท็จจริง ผู้โดยสารที่เดินทางมาโดยแท็กซี่คนหนึ่ง ถามคนขับว่า จ้าว หย่งเหลียง เป็นคนเช่นไร คนขับแท็กซี่ตอบว่า เขาเป็นคนที่อยู่ที่ไหน ที่นั่นล้วนสว่างไสวไปทั่ว (ชื่อของคุณจ้าว หย่งเลี่ยงนั้นมีความหมายว่า สว่างไสวตลอดกาล) และเกษตรกรที่ได้รู้ข้อเท็จจริง ต่างก็ชวนกันอพยพมาอยู่ที่เมืองเกษตร เฟิงสุ่ยเหลียง กันอย่างต่อเนื่อง

สิ่งหนึ่งที่จ้าว หย่งเหลียงตระหนักได้ดีว่า แม้จะสร้างบ้านพักยกให้ฟรีๆ แต่เขาเหล่านั้นจะดำรงชีพได้อย่างไร หากปราศจากอาชีพการงาน ไม่มีรายได้สำหรับการดำรงชีพในชีวิตประจำวัน เขาได้ให้คำมั่นว่า ทุกคนที่เข้ามาอยู่ในเมืองเกษตรแห่งนี้จักสามารถทำเงินได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 ถึง 100,000 หยวนต่อปี และแล้ว ...

ในปี 2006 เกษตรกรชุดแรก 30 กว่าคนจากหมู่บ้าน จ้าวเกาชุน(召勾村) ก็ได้อพยพโยกย้ายเข้ามาพักอาศัย และอาชีพอะไรที่คุณจ้าวได้เตรียมการไว้ให้ ? เขาชี้ไปที่บ้านหนึ่งยูนิด ในพื้นที่ 400 ตารางเมตร จัดแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นบ้านพักเพื่อใช้ดำเนินกิจกรรมชีวิตประจำวัน พื้นที่อีกส่วนนั้นจัดสร้างเป็นโรงเรือนเลี้ยงกระต่ายขน ทาทู่ (獭兔) โดยใช้ใบซาหลิ่วที่ต้องคัดทิ้งไปในกระบวนการผลิตกระดาษ - ไม้อัดความหนาแน่นสูง มาเลี้ยง จากนี้ไปก็จะสามารถขยายธุรกิจอื่นๆได้อย่างต่อเนื่อง สร้างอาชีพอื่นๆติดตามมาอีกมากมาย

จาการลงทุนกว่า 300 ล้านหยวน ปลูกซาหลิ่วในท้องทะเลทราย 200,000 ไร่ เพื่อผลิตกระดาษ และไม้อัดแล้ว ส่วนที่เป็นกิ่งอ่อน ใบอ่อนนั้นสามารถนำมาเป็นอาหารเลี้ยงกระต่ายได้อย่างดี กระต่ายที่เลี้ยงโตได้ที่แล้ว นำไปชำแหละเอาหนังไปทำเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม กระเป๋าถือ ส่วนเนื้อนั้นก็แช่แข็งส่งไปขายทั่วประเทศ (คนจีนนิยมกินเนื้อกระต่าย ไม่เหมือนคนไทยที่ไม่นิยมกินกันด้วยสาเหตุทางวัฒนธรรมที่เห็นเป็นสัตว์เลี้ยง)

จ้าว หย่งเลี่ยง เป็นผู้ที่มีสายตาแหลมคม มองการณ์ไกล ด้วยเห็นว่าทะเลทรายนั้นที่สถานที่ที่เหมาะต่อการเลี้ยงกระต่ายเพื่อเอาขนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยบรรยากาศมีความชื้นต่ำ เชื้อโรคก็น้อย และกระต่ายนั้นยังก่อให้เกิดสายโซ่ธุรกิจติดตามมาอีกหลายอย่าง นอกจากขนกระต่ายแล้ว ยังได้เนื้อกระต่าย ลูกอัณฑะ (ทำยา) เลือด เครื่องใน และอุจจาระ (ทำปุ๋ย) ใช้ประโยชน์ได้หมดโดยเศษเนื้อเศษกระดูกกระต่ายนำไปเลี้ยงตัวมิงค์ เศษที่เหลือจากนั้นนำไปเลี้ยงแร๊คคูน ที่เหลือจากแร็คคูนนำไปเลี้ยงจิ้งจอก และหมาป่า และสุดท้ายหมาป่านั้นก็คือตัวยาจีนอย่างหนึ่งจากผลผลิตทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้เกิดอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร โรงงานผลิตเสื้อผ้าจากขน-หนังกระต่าย ขนมิงค์ ขนแร๊คคูน ขนหมาจิ้งจอก หมาป่า ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดส่งออกไปจำหน่ายยังแถบยุโรป ฮ่องกง อเมริกาและรัสเซีย

เมื่อเมืองเกษตรแห่ง เฟิงสุ่ยเหลียง ขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี เขาได้เดินทางไปค่อนครึ่งประเทศ ชักชวนให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนในกิจการต่างๆ ทำให้เกิดธุรกิจอื่นๆติดตามมาไม่ขาดสาย มีการสร้างโรงไฟฟ้า โรงงานผลิตยา การขนส่ง โรงแรม การท่องเที่ยว แม้กระทั่งธนาคารหลายแห่งก็แห่กันมาเปิดให้บริการที่นี่ จนกระทั่งมีการขยายตัวเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบ มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และอื่นๆที่เมืองใหญ่พึงมีความฝันของเขา จ้าว หย่งเลี่ยง บรรลุความเป็นจริงแล้ว ทางการได้กล่าวสรรเสริญถึงความกล้าหาญ อุตสาหะ ในการอุ้มชูช่วยเหลือเหล่าเกษตรกรคนยากจนโดยไม่คำนึงถึงผลตอบแทน จากการฟื้นฟูท้องทะเลทรายที่แห้งแล้ง ให้กลายเป็นต้นแบบของเมืองในทะเลทรายที่มีชีวิตชีวา นั่นคือเป้าหมายที่ได้วางไว้ จ้าว หย่งเหลียง กล่าวไว้ก่อนจากกัน 

 

 ซากกระต่ายที่ชำแหละแล้ว

ซากกระต่ายที่ชำแหละแล้ว

ผ้าพันคอจากขนกระต่าย

ผ้าพันคอจากขนกระต่าย

เสื้อ ขนกระต่าย

เสื้อ ขนกระต่าย

เสื้อขนกระต่าย

เสื้อขนกระต่าย

 

หมายเหตุ         

ซาหลิ่ว Salix psammophila (沙柳แปลได้ว่า ต้นหลิวทราย) เป็นพืชทะเลทรายชนิดหนึ่งที่ทนความแห้งแล้งได้ดี ขึ้นได้ในที่ดินเค็ม เมื่อเป็นต้นอ่อน กิ่งก้านจะมีปุยขนขึ้นรอบ เมื่อโตขึ้นจะหายไปกลายเป็นผิวที่ราบเรียบ กิ่งอ่อนเป็นสีเหลือง ใบเรียวเล็ก ยาวประมาณ 1.5 ถึง 5 เซนติเมตร กว้าง 3 ถึง 7 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ ใบห่อ ครึ่งใบบนมีรอยฟันหยักเล็กน้อย กิ่งก้านเล็กเรียว ไม่อุ้มทราย รากหนาแน่น ขึ้นกระจายตามริมขอบชายน้ำ พบเห็นได้ตามเขตมองโกเลียใน เหอไป่ ซานซี ส่านซี กานสู ชิงห่าย สื้อชวนของประเทศจีน  เป็นพืชที่ใช้ปลูกป้องกันพายุทรายในเขตแห้งแล้ง และเป็น หนึ่งใน สามชนิดของพืชที่ใช้สร้างสวนป่าในเขตทะเลทราย ปัจจุบันได้มีบริษัทเอกชนเข้ามาปลูกซาหลิ่วในพื้นที่ทะเลทราย เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ซาหลิ่วยังเป็นพืชสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งด้วย 

เส้นใยขนแกะ ที่เรียกว่า แคชเมียร์ Cashmere นั้น เป็นขนอ่อนที่ขึ้นอยู่บนผิวชั้นนอกบริเวณขนหยาบของตัวแกะภูเขา ขนอ่อนเหล่านี้จะงอกออกมาเมื่อย่างเข้าฤดูหนาว ป้องกันอากาศที่หนาวเย็นได้เป็นอย่างดี และจะหลุดร่วงไปเมื่ออากาศอุ่นขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของแกะชนิดนี้ การเก็บเส้นใยขนทำได้โดยการใช้แปรงชนิดพิเศษสางจากขนแกะ ด้วยเส้นใยขนแกะมีปริมาณน้อยมาก มีเพียง 0.2 % ของเส้นใยสัตว์ทั่วโลก ซื้อขายกันด้วยน้ำหนักหน่วยเป็น กรัม ราคาแพง เสื้อผ้าเส้นใยขนสัตว์จากทั่วโลก 70 % มาจากประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นเส้นใยขนแกะที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก มันมีราคาแพงจนได้รับการเรียกขานว่า เป็น ทองนิ่ม อัญมณีไหม หรือ ราชินีแห่งเส้นใย (เหตุที่เรียก แคชเมียร์เนื่องจากแคว้นแคชเมียร์ของอินเดียเป็นแหล่งผลิตเสื้อผ้าเส้นใยแกะอันเป็นที่รู้จักกันแต่แรก)

ตงต๊ะเหมิงกู่หวังจิ๊ถวน (东达蒙古王集团) กลุ่มบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยคุณ จ้าว หย่งเลี่ยง เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจหลากหลาย ตั้งอยู่ที่เมือง เอ้อเอ่อตวัวซือ (鄂尔多斯 /Ordos) มองโกเลียใน ผู้ใดต้องการทราบรายละเอียด เข้าไปดูได้ที่หน้าเว็บไซท์ของกลุ่มบริษัท
http://www.dongda.com.cn/index.aspx

จ้าว หย่งเลี่ยง เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง เมื่อร่ำรวยแล้วก็ตอบแทนกลับคืนสู่สังคม โดยการอุ้มชูช่วยเหลือคนยากคนจน (扶贫) การให้ความช่วยเหลือของเขานั้น เน้นการให้ช่วยเหลือตนเอง แต่ต้องจัดหาปัจจัยพื้นฐานให้ก่อนเป็นอันดับแรก (บ้าน ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน) แล้วจึงจัดหางานการอาชีพที่ถนัดให้ทำ มิใช่การช่วยเหลือแบบหว่านโปรย แจกเบี้ย แจกเงินแบบบ้านเมืองเรา ซึ่งเป็นการให้แบบไม่รู้จบ ทำให้ประชาชนเกียจคร้าน แบมือขออยู่เรื่อยไป เมื่อไรเมื่อไรชีวิตคนไทยเราก็ย่ำแย่ ย่ำอยู่กับที่อยู่ร่ำไป ประเทศไทยเราก็มีบุคคลที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ ร่ำรวยติดอันดับโลก แต่ในทัศนคติการดำเนินชีวิตแล้ว เดินสวนกันกับ จ้าว หย่งเหลียง คนละทิศทาง คนละขั้วเลยทีเดียว

 




เกษตรไฮเทค

นักวิชาการรู้ แต่ยังไม่กล้าบอก
ปลูกข้าวในทะเลทราย โดยใช้เม็ดทรายเก็บกักน้ำไว้ทำนา
กดเอาไว้ อย่าให้โผล่ขึ้นมาได้ แล้วมันก็จะดีเอง!
กว่าจะเป็นตัวตนของตนเอง ต้องใช้เวลาเดินทางนานร่วม 60 ปี !
เบื้องหลังความสำเร็จรางวัลไวน์เหรียญทองนานาชาติของจีน
เคล็ดลับประหลาดที่ใช้ปลูกข้าวได้ผลดีเหลือเชื่อ
GMO
คาร์บอนไดออกไซด์ทำให้คุณภาพซากสุกรดีขึ้น
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อีกแล้ว
จ่าวหลานต้านไป๋ (藻蓝蛋白 / Algal blue protein) article
เอ๊ะ ทำได้อย่างไร ?
并蒂荔枝 (ปิ้งตี้ลี่จือ) คืออะไร ?
คุณเชื่อหรือไม่ ปลูกต้นไม้ในทะเลทราย 10 วินาที ต่อ 1 ต้น อัตราการรอดสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์?
มหันต์ภัยเงียบก่อหายนะกำลังเผยตัวปรากฏให้เห็นแล้วอย่างชัดเจนในผืนแผ่นดินเพาะปลูก
ยาสูบมีโทษต่อร่างกาย ผู้เสพอาจถึงตายได้ แต่ ... นักวิทยาศาสตร์กลับนำมันมารักษาชีวิตคน ! article
ถึงเวลายาเคมีเกษตรต้องยาตราถอยทัพ
ยาเคมีหรือ ถอยให้ห่างไกลไปเลย
สารตัวนี้แหละที่ช่วยเร่งอัตราการสังเคราะห์แสงในพืช article
จุลินทรีย์ แบซิลลัส ซับทิลิส article
116 肥 ไม่เชื่อไม่ได้แล้ว ! ไม่ใช้ก็คงไม่ได้แล้ว (เหมือนกัน) article
คุณเข้าใจ และ ตระหนักถึงความสำคัญของ article
อุปกรณ์ที่จะช่วยชาวไร่ข้าวโพดขายผลผลิตได้ราคาสูงขึ้น article
ผลลัพธ์ที่ปรากฏให้เห็นโดยไม่ได้ตั้งใจ article
โปรตีนอะไรที่สร้างความต้านทานโรคพืชได้ article
ไก่เบตงมาจากไหน ? ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่นี่นี้เอง ?
ฟูเซียวเฝิ่นน่า (复硝酚钠)
จากเมล็ดพันธุ์ 3 เมล็ดสุดท้าย สู่อาณาจักร มาคา - ไวอะกร้า ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ article
ผลผลิตรากบัว จาก 4,800 กก. ต่อไร่ เพิ่มเป็น 14,400 กก. ต่อไร่ ทำได้อย่างไร ?
เอาผงชูรสมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ย เพิ่มผลผลิตได้เท่าตัว
นี่มันลูกแตงโมนะ ไม่ใช่ลูกโบว์ลิ่ง article
อะไรเอ่ย ทั้งแข็งทั้งอร่อย article
ต้นไม้ที่ผลิตเกลือแกง article
หมูที่เลี้ยง-ขุนด้วยหนอนแมลงวัน คุณกล้ากินไหม ? article
แต้มจุดสีแดงบนใบข้าวเพื่อ .... article
อะไรนะ มีด้วยหรือ ปุ๋ยอากาศน่ะ ! article
หนานอวี้ เบอร์ 1 article
หนุ่มสติเฟื่องเพาะพันธุ์ เหรยินเซินกว่อ article
สวนเกษตรสาธิตไฮเทคระดับประเทศแห่งเมืองเทียนสุ่ย article
ต่าหังเทียนผาย เจ่าสวินฮว๋านลู่ ช่วงเจียกงเอยี๊ยะ ต้ายหนงหมินฝู๋ article
ศักราชใหม่ของเกษตรกรจีน article
ถ้าคุณต้องการเลี้ยงกุ้ง ปูปลา และสัตว์น้ำอื่นๆให้ได้ผลดี article
มะละกออวกาศ article
สัตว์ที่คนไทยเราขยะแขยง ประหวั่นพรั่นพรึง article
เอายอดมะระมาเสียบตอบวบดีอย่างไร ? article
หมาวฮวามี่เหาถาว 毛花猕猴桃 สายพันธุ์ใหม่ วอลเท่อร์ (华特 / Walther) article
สวี ไหว่จง (徐 伟忠) article
กุหลาบ 7 สี หรือ กุหลาบสายรุ้ง 彩虹玫瑰 article
วิธีไหนดีกว่ากัน? article
ไก่เหวินชาง (อีกแล้ว) article
เตาแก๊สเกษตร article
มู่กวา (木瓜) article
เริ่มแล้ว อลังการยิ่งใหญ่ตระการตาน่าชมชื่น article
นี่ก็ใช่เหมือนกัน article
ปลูกข้าวในทะเลทรายโกบี ? article
ปลูกมันฝรั่งในอากาศ article
จินกวา หรือ หนานกวา ? article
ไก่เนื้อที่ขึ้นชื่อลือชาว่ารสชาติอร่อยที่สุดในเกาะไหหลำ article
ไปเทียว ห่ายหนานต่าว (เกาะไหหลำ) article
อยี่ หวงหวาง จิน article
ข้าวไผ่ article
นาโนเทคโนโลยีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ article
เต้าเกอ article
พริก พริก พริก ที่นี่มีแต่พริกทั้งนั้น article
นาซี 778 ขจรขจายทั่วผืนแผ่นดินจีน article
แตงโมอวกาศมาที่รอคอย ถึงเวลาปลูกให้ลิ้มชิมรสแล้ว article
ผลิตภัณฑ์ใหม่ทางการเกษตรที่ทรงประสิทธิภาพในประเทศจีน article
ไข่มุกดำที่มีรสชาติแสนโอชา article
อาหารดัดแปรพันธุกรรมปลอดภัยหรือไม่ ? article
เบิ่งมองการเกษตรประเทศจีน article
สบู่ดำที่เกาะห่ายหนาน article
เอทานอลจากต้นข้าวโพด article
หญ้าที่โตเร็วที่สุดในโลก article
ข้าวหอมสายพันธุ์ใหม่ที่กว่างซี article
ตลาดผัก-ผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน article
เตาแก๊สแรงดันสูง (เตาฟู่) ที่ประหยัดแก๊สถึง 2 ขั้นตอน article
การผลิตพันธุ์ข้าวลูกผสมทำได้อย่างไร ? article
อาร์ติโชค (artichoke) article
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ไข่ไก่ article
เตาแก๊สชีวมวลประสิทธิภาพสูง article
เตาผลิตแก๊สจากไม้ฟืนและเศษเหลือทิ้งจากพืชไร่ article
ขโมยวัวข้าหรือ ? บอกได้เลยว่า ยากซ์........ซ article
แบตเตอรี่เก่า อย่าเพิ่งเปลี่ยน หรือ โยนทิ้งไป article
ซื้อแต่เตา แล้วมีแก๊สใช้ตลอดไป ! article
เครื่องดำนาขนาดเล็ก article
ต้นมะเขือออกผลเป็นไข่ไก่ ? article
เดินทางเยี่ยมเยือน เฉิงตู นครแห่งไม้ดอก article
เว็บไซท์ทางการของจีน article
นิทัศน์การแสดงสินค้า-อุปกรณ์และเทคโนโลยีการเก็บรักษาความสดผลผลิตทางการเกษตรนานาชาติครั้งที่สอง article
เสื้อผ้าที่ถักทอตัดเย็บมาจากไม้ไผ่ article
พันธุ์ถั่วฝักยาวอวกาศ article
ผลไม้เมืองร้อนในมุมมองของคนจีน III article
ของจริง มิใช่ของปลอม article
ฟักแฟง 9 ผล ราคาเหยียบ ห้าหมื่นบาท ! article
ผลไม้เมืองร้อนในมุมมองของคนจีน II article
ผลไม้เมืองร้อนในมุมมองของคนจีน article
ปลาอะไรเอ่ย มีราคาแพงที่สุดในโลก ? article
ข่าวดี article
ข้าวโพด มันฝรั่ง ที่สร้างภูมิคุ้มโรคได้ article
บอกอำลาควันไฟไปได้เลย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
Welcome to Eco-agrotech.com Photo Albums
Google