เมื่อเป็นดั่งนี้ ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อย (เฉลี่ยรายได้ต่อต้นกว่า 500 หยวนเลยทีเดียว) นั่นเป็นผลอันเกิดจากความร่วมมือของสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรแห่งฝูเจี้ยน โดยใช้โซเชี่ยนเน็ตเป็นสื่อชักนำให้ผู้คนมาดูสวนสาลี่ที่แปลกใหม่แห่งนี้ ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าๆตัว (จากหมื่นกว่าหยวน เป็นสองถึงสามหมื่นหยวน)
คุณฮว๋างกล่าวว่า สาเหตุที่ต้นสาลี่อายุมากขึ้นแล้วผลผลิตลดลงทั้งปริมาณและคุณภาพนั้นเกิดจากการบดบังแสงแดดของใบในแต่ละกิ่งที่ทับซ้อนกันหลายๆชั้น ต้นไม้จึงเพิ่มการเติบโตทางยอดพุ่งสู่เบื้องบนมากขึ้น เพื่อรับแสงแดด ทำให้อาหารที่ต้นสร้างขึ้นถูกนำไปเลี้ยงกิ่งที่แตกออกใหม่ ทำให้ผลที่ติดตามกิ่งล่างๆได้รับอาหารไม่เต็มที่ จึงทำให้ติดผลน้อย มีขนาดผลเล็ก และขาดรสหวานเท่าที่ควร
หลังจากที่ทำการควบคุมกิ่งก้านให้อยู่ในแนวนอนภายใต้ห้างร้านแล้ว ทำให้เกิดกิ่งกระโดงขึ้นมาก ให้ทำการคัดเลือกกิ่งที่เหมาะสมแล้วดึงโน้มลงมาผูกติดกับโครงห้างร้าน ที่เหลือให้ตัดทิ้งไป กิ่งที่ทำการโน้มลงมาก็จะเติบโตให้ผลผลิตในปีต่อไป
เนื่องจากเมือง เจี้ยนโอว มณฑล ฝูเจี้ยนเป็นพื้นที่ที่ติดกับทะเล มีมรสุมลมแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง บางครั้งก่อความเสียหายให้เกิดกับต้นไม้ผลที่ปลูกกันเสมอๆ แต่หลังจากที่ได้เปลี่ยนแปรลักษณะรูปแบบบังคับรูปทรงต้นใหม่ภายใต้ห้างร้านดังกล่าวแล้ว แม้จะเกิดพายุใหญ่ ก็ลดทอนความเสียหายได้อย่างชัดเจน ถือว่าเกิดผลลัพธ์ที่น่ายินดีอีกโสดหนึ่ง
เมื่อทำการปรับเปลี่ยนรูปทรงลำต้นของต้นสาลี่ให้อยู่ภายใต้ห้างร้านแล้ว บังเกิดผลลัพธ์ที่ดีหลายๆด้าน การดำเนินงานก็สะดวกสบายง่ายดายขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้องปีนป่ายขึ้นไปเก็บผลบนกิ่งสูงๆอีกต่อไป สามารถนำเครื่องทุ่นแรงมาใช้ในสวนได้อีกด้วย ดังนั้นคุณหลิว จ้าวฮุย จึงทำการปรับเปลี่ยนรูปทรงต้นสาลี่ทั้งหมด คุณความดีอันนี้ต้องยกให้กับคุณจง ผู้คร่ำหวอดอยู่กับสวนสาลี่มานานนับสิบปี
หมายเหตุ : ถ้าอ่านบทความนี้แล้ว ให้ทบทวนถึงความสำคัญของ แสงแดด ที่มีต่อการเติบโตให้ผลผลิตของพืชที่ปลูกทุกชนิด ดังที่ผมตอกย้ำถึงบทบาทของแสงแดดตลอดเรื่อยมา (บนโลโกของห้างฯจะมีคำว่า เกษตรแสงอาทิตย์ กำกับอยู่)
เมื่อได้เข้าใจแนวทางและหลักการเช่นนี้แล้ว เกษตรกรไทยเราน่าจะนำเอาความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้กับพืชผลไม้ที่ปลูกดู เข้าใจว่าน่าจะได้ผลไม่ต่างกัน เพราะเป็นหลักการอันเดียวกัน เท่าที่ทราบ ก่อนหน้านี้ มีเกษตรกรบ้านเราใช้วิธีโน้มกิ่งผลไม้ที่ปลูกลง โดยใช้เชือกผูกมัดกิ่ง แล้วดึงรั้งลงผูกกับหลักบนพื้นดิน ทำให้ลูกดก ผลใหญ่ขึ้น (แต่ไม่ทราบเหตุผลที่เป็นไป) คลิกเข้าไปดูวิดีโอเรื่องนี้ได้เลยที่
http://www.ntv.cn/v/20151027/156147.shtml
แถมท้าย :
งานวิจัยค้นคว้าของหน่วยงานการเกษตรจีน ส่วนใหญ่จะเป็นงานวิจัยที่สามารถนำมาปฏิบัติใช้งานได้จริง และนำมาส่งเสริมให้เกษตรกรได้ประยุกต์ใช้กันอย่างจริงจัง แต่งานวิจัยของไทยนั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปในทางวิชาการที่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติใช้ในภาคสนาม จึงไม่ใคร่เกิดประโยชน์อันใดกับเกษตรกร
เกษตรกรจีนเป็นคนช่างสังเกต และมีความละเอียดต่ออาชีพที่ทำ ขบคิดวิธีการต่างๆนาๆ เพื่อให้การเพาะปลูกที่ตนกระทำนั้นได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ตัวอย่างที่หยิบยกมาให้เห็นก็คือเรื่องของแสงแดดที่มีอิทธิพลต่อผลไม้
ผลแอปเปิลแดงที่ไม่ใคร่ขึ้นสี สีอ่อนจาง สีไม่เข้ม สีไม่สม่ำเสมอ เกิดจากการได้รับแสงไม่เพียงพอ บางครั้งแดงแค่ครึ่งผล (เพราะได้รับแดดด้านเดียว) เกษตรกรที่ปลูกแอปเปิลจึงนำเอาพลาสติกสะท้อนแสงสีเงินไปปูใต้ต้นแอปเปิล แสงแดดที่สะท้อนกลับขึ้นด้านบนกระทบผลแอปเปิล ทำให้ผลแดงเข้มทั้งผล แต่ทุกวันนี้จีนพัฒนาพันธุ์ให้ต้นแอปเปิลไม่ให้แตกกิ่งก้าน ทำให้ผลติดตามลำต้น ทำให้ผลได้รับแสงทั่วทุกลูกทั้งต้น เพราะไม่มีใบจากกิ่งมาบดบัง (ดูบทความ ของจริง มิใช่ของปลอม ในคอลัมพ์ เกษตรไฮเทค) หรือเข้าไปดูเว็บไซท์ของบริษัทโดยตรงที่
|