ReadyPlanet.com
dot dot
dot
นาซี 778 [Nashi 778]
dot
bulletรู้จักนาซี 778
bulletคุณสมบัติ
bulletประสิทธิภาพ
bulletวิธีใช้นาซี 778
bulletข้อควรระวัง
bulletทฤษฏี กลไก และ บทบาท
bulletขนาดและราคา
dot
นาโน 863 [Nano 863]
dot
bulletรู้จักนาโน 863
bulletประสิทธิภาพ
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการเพาะปลูก
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการปศุสัตว์
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
bulletการใช้นาโน 863 ในวงการเห็ด
bulletขนาดและราคา
dot
นาโนบอล [Nano Ball]
dot
bulletรู้จักนาโนบอล
bulletวิธีใช้นาโนบอล
bulletราคา
dot
นาโนสทีค [Nano Stick]
dot
bulletรู้จักนาโนสทีค
bulletราคา
dot
Download Brochures
dot
bulletโปรชัวร์นาซี 778 และนาโน 863
dot
Photo Albums
dot
bulletอัลบั้มรูปผลผลิตต่างๆที่ได้จากนาซี 778
dot
รายงานผลการใช้ผลิตภัณฑ์
dot
bulletสารสมุนไพรนาซี 778
dot
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
dot
bulletหมวดหมู่สินค้า
dot
ตะกร้าสินค้า
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
bulletยืนยันการโอนเงิน
bulletตรวจสอบสถานะสั่งซื้อสินค้า
dot
สมัครรับข่าวสาร

dot


Go to Nanosoeasy.com
Nano 863 Video Clip #1
Nano 863 Video Clip #10
Nano 863 Video Clip #9
Nano 863 Video Clip #8
Nano 863 Video Clip #7
Nano 863 Video Clip #6
Nano 863 Video Clip #5
Nano863 Video Clip #3
Nano 863 Video Clip #2


เทคโนโลยี GPIT หนทางกสิกรรมธรรมชาติ ด้วยเกษตรแสงอาทิตย์ article

เมื่ออ่านหัวข้อเนื้อเรื่องที่เห็นนี้แล้ว ทำให้เกิดข้อกังขาขึ้นได้ 2 ประการ ประการแรกก็คือเห็นเป็นเรื่องปกติที่การเพาะปลูกไม่ว่าจะเป็นพืชพรรณชนิดไหนก็ต้องพึ่งพาอาศัยแสงอาทิตย์ในการเจริญเติบโตดำรงชีวิตเพื่อออกดอกให้ผลผลิตเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ทำไมจึงต้องมากล่าวเน้นให้มากความ ใครๆเขาก็รู้กันอยู่  ประการที่สอง. เทคโนโลยี GPIT นั้นคืออะไร ? มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอย่างไรกับแสงอาทิตย์และการเพาะปลูก ?


 

จากความสำเร็จอันน่าเหลือเชื่อของผลการทดสอบสาร GPIT ที่นำไปใช้ในไร่ชาของโรงงาน ต้าตู้กั่ง เนื้อที่จำนวน 150 หมู่ (360 ไร่) ในเขตุปกครองตนเองชาวไต ซีซวงป่านน่า มณฑล หยุนหนาน (ยูนนาน) ตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งตั้งแต่ไหนแต่ไรมาในประวัติศาสตร์ของการปลูกชา ไม่เคยปรากฏต้นชาแตกยอดผลิใบอ่อนให้เก็บเกี่ยวได้เลยในฤดูหนาว แต่เหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ใจได้ปรากฏให้ประจักรกับสายตาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งชนิดที่ค้านโต้แย้งไม่ได้เลย ด้วยไร่ชาที่ฉีดพ่นด้วยสาร GPIT ทั้ง 360 ไร่นี้ล้วนแตกยอดผลิใบเขียวขจีหนาแน่นไปทั่วทั้งแปลงในหน้าหนาวที่ปกติต้นชาจะหยุดพักชะงักการเจริญเติบโตในวันเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานตลอดฤดูกาล อะไรที่ทำให้เกิดเป็นไปได้ดั่งนี้ ? ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี่เองที่เป็นตัวอย่างหนึ่งในจำนวนมากมายหลายๆกรณีอันเป็นที่มาของ เกษตรแสงอาทิตย์


 


ข้าวสาลีสายพันธุ์ 906-21ที่คุณเหวิน ต๊ะเจีย ปลูกที่มณฑลจี่หลิน นครฉางชุน
โดยการนำเอาสาร GPIT มาใช้ ผลเก็บเกี่ยวครั้งแรกผลผลิตเพิ่มขึ้น 40 %
เก็บเกี่ยวหนสองเพิ่มขึ้นเป็น 70 % ส่วนการเก็บเกี่ยวหนสองของแปลงที่ไม่ได้ใช้
ผลผลิตเพิ่มแค่ 20 % เท่านั้น
 


 

อะไรคือ เกษตรแสงอาทิตย์ ?

หัวข้อที่จะหยิบยกมาปาฐกต่อไปนี้ จะเป็นการกล่าวถึงแสงอาทิตย์ในเชิงของพลังงานที่พืชนำไปใช้ขับเคลื่อนทำงานทุกระบบขบวนการภายในต้นพืช ดุจเดียวกับการป้อนน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่เครื่องจักร-เครื่องยนต์ให้เดินเครื่องทำงานได้นั่นเอง แต่ทว่ามีความแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจนก็คือ พลังงานแสงแดดที่พืชนำไปใช้นั้นเป็นเชื้อเพลิงที่พืชนำไปใช้ได้โดยตรงทันที ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง (ฟอสเซิ่น) นั้นเป็นเชื้อเพลิงทางอ้อมที่ผ่านขบวนการเปลี่ยนแปลงมาแล้วจากพลังงานแสงแดดเช่นเดียวกัน  ชนิดแรกนั้นถูกนำไปใช้ด้วยต้นพืชที่มีชีวิตอยู่ ส่วนชนิดหลังนั้นนำไปใช้ได้กับเครื่องจักรที่ไม่มีชีวิต


 


ในปี 1999 ข้าว ยิว-63 ที่ปลูกเปรียบเทียบทดสอบสรรพคุณของสาร GPIT ที่มณฑล
ซื่อชวน (เสฉวน) นครปานจือฮวา เมืองวานชิว จังหวัดหมี่ยี่ แปลงขวามือที่ใช้สาร GPIT
ไม่มีร่องรอยของโรคและแมลงให้เห็น ส่วนแปลงซ้ายมือที่ไม่ได้ใช้นั้น
แม้จะฉีดพ่นยาฆ่าแมลงและกำจัดโรคราถึง 4 ครั้งแล้วก็ตาม โรคใบขาว
และโรคบลาส ก็ยับยั้งไว้ไม่อยู่


 

เราทุกคนต่างก็ได้เรียนรู้มาแล้วว่า แสงนั้นมีอิทธิพลต่อการงอกการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตตลอดระยะเวลาที่มันมีชีวิตอยู่ เมล็ดพืชจะไม่สามารถงอกเป็นต้นได้เลยถ้าขาดแสงถึงแม้จะได้รับน้ำ-ความชื้น อุณหภูมิ-ความร้อนครบถ้วนเพียงพอ เนื่องจากแสงมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารกระตุ้นให้เกิดฮอร์โมนที่ช่วยในการเกิดรากและใบจนกระทั่งงอกออกเป็นต้น และเมื่อหยั่งรากยืนต้นได้แล้วก็ยังคงขาดแสงอาทิตย์ไปไม่ได้จนกว่าต้นจะตายไป


 


ครอบครัว ฉาว เจาจวิ้น ในมณฑ, ซินเจียง (ซินเกียง) เมืองอูซู ตำบลถายเซียง
ได้ปลูกฝ้ายสายพันธุ์ ซินลิ่ว-6 เปรียบเทียบกันระหว่างแปลงที่ใช้สาร GPIT
กับแปลงที่ไม่ได้ใช้ ปรากฏว่าแปลงที่ไม่ได้ใช้ มีเส้นใยยาวแค่ 30.2 มิลลิเมตร
ค่า Horse clone เท่ากับ 5.7 ส่วนแปลงที่ใช้สาร GPIT นี้นั้น
มีเส้นใยยาว 32.4 มิลลิเมตร ค่า Horse clone เท่ากับ 4.5 ผลผลิตเพิ่มขึ้น 50.9 %
มีความทนทานต่ออากาศหนาวเย็นแห้งแล้งได้ดีกว่าอย่างชัดเจน


 

จากการพัฒนาการทางการเกษตรหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปุ๋ยเคมี ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืชทั้งโรคและแมลง ตลอดจนแผ่นวัสดุสังเคราะห์ที่ใช้คลุมหน้าดินที่เราภูมิใจว่าเป็นก้าวที่รุดหน้ารวดเร็วในการเพิ่มผลผลิตได้มากเป็นที่น่าพอใจ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไป เราจึงได้ตระหนักว่า บรรดาสิ่งเหล่านี้กลับเป็นตัวสร้างปัญหาก่อวิกฤตเลวร้ายตามมาอย่างใหญ่หลวง สารพิษแปดเปื้อนระคนปนไปกับน้ำ เกิดเป็นมลภาวะในแวดล้อมธรรมชาติทั้งในดินและอากาศ ภาวการณ์เหล่านี้ทำให้เราต้องหวนฉุกคิดอีกครั้งหนึ่งว่า เราเดินมาถูกทิศถูกทางแล้วหรือ ? หรือว่าต้องทบทวนหาหนทางใหม่แนวไหนที่เป็นการปกป้องโลกของเราให้อภิรมย์น่าอยู่โดยปราศจากผลกระทบในทางลบที่จะส่งผลย้อนกลับมาหาเราเองในท้ายที่สุด แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็เป็นหนทางที่ช่วยคลี่คลายปัญหาแรงกดดันในการผลิตอาหารการกินให้เพียงพอเทียมทันต่อการเพิ่มของประชากรที่ยับยั้งไม่ได้ จากการใช้ทรัพยากรและต้นทุนลดลงทั้งสองส่วน แต่ให้ผลผลิตเพิ่มมากยิ่งๆขึ้น


 


ดอกดาวเรืองซึ่งปกติจะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว แต่เมื่อนำเอาสาร GPIT
มาใช้กับการเพาะปลูก ทำให้ก้านช่อดอกเดี่ยวนั้นกลับกลายเป็นก้านช่อ
ที่เป็นดอกผสม 2 ถึง 3 ดอก มีจำนวนถึง 15.2 % ของทั้งหมด
นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ยืนยันถึงศักยภาพในการชักนำเปลี่ยนแปลง
การแสดงออกของ Phenotype ได้อย่างแท้จริง


 

ด้วยการตระหนักถึงสุขภาพอันดีของมนุษยชาติ เกษตรกรทั่วโลกได้สัมผัสกับคมมีดอีกข้างหนึ่งของการพัฒนาการเกษตรด้วยสารเคมีที่สังเคราะห์ขึ้นมาอย่างมากมาย ทำให้ต้องหวนย้อนกลับมามองหาวิถีทางเกษตรที่ยั่งยืนเพื่อลูกหลานของเราต่อไปในอนาคต ด้วยการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์มีประสิทธิผลมากที่สุด ประหยัดมากที่สุด แต่ต้องได้รับผลตอบแทนผลผลิตสูงสุดทั้งในเชิงของปริมาณและคุณภาพ ซึ่งความมุ่งหวังต้องการดังกล่าวนี้เป็นข้อขัดแย้งที่สวนทางกันอย่างรุนแรงน่าหนักใจและไม่เคยแก้ไขได้เลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จากการวิจัยศึกษาพบว่าในในขบวนการสังเคราะห์ คาร์โบไฮเดรท ในพืชนั้นต้องอาศัยปัจจัยในการดำเนินการสรรค์สร้างดังต่อไปนี้ แสงแดด 96 % ปุ๋ย (ธาตุอาหาร) 3.6 % และจุลธาตุ 0.4 % ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแสงแดดมีอิทธิพลสูงต่อการเจริญเติบโตของพืชเพียงไร ส่วนปุ๋ยที่เราใส่ป้อนให้กับพืชนั้นสูญเสียไปในดินมากกว่าที่พืชได้นำไปใช้เสียอีก เพราะพืชใช้พลังงานจากแสงแดดไม่เต็มที่ไม่เพียงพอไม่สมดุลต่อการทำงาน เพราะพื้นที่ผิวใบมีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น สารสีเขียว-คลอโรฟิลล์ไม่เพียงพอ


 

ครอบครัว หลี่ยี่ มีอาชีพปลูกพืชผักที่เมือง เหลียงหวังซาน ได้ปลูกพริกไว้ 2 แปลง แปลงหนึ่งฉีดพ่นด้วยสาร GPIT เพียงแค่ครั้งเดียว อาการของโรคราน้ำค้างก็ชะงักหดหายไป (แปลงด้านหลัง) แต่กับอีกแปลงที่ฉีดพ่นด้วยยาเคมีถึง 4 ครั้งกลับไม่เกิดผลอะไรเลย ต้นพริกล้มตายหมด (แปลงด้านหน้าที่เห็นโล่งๆ)


 

แต่ในขณะนี้ เวลานี้ ด้วยเทคโนโลยี ชักนำพันธุกรรมพันธุ์พืช GPIT (Gene Phenotype Induction Technique) ปัญหาต่างๆที่ดำรงอยู่สามารถคลี่คลายได้อย่างง่ายดายเกือบทุกเปลาะและมีประสิทธิภาพสูงสุด นั่นก็คือการสริมสร้างศักยภาพภายในของต้นพืชให้เต็มที่ถึงขีดสุด เพื่อที่จะได้นำเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ขับเคลื่อนขบวนการทำงานภายในของต้นพืช ไม่ว่าจะเป็นการงอก การเจริญเติบโต การให้ผลผลิต การสร้างภูมิต้านทานต่อโรคและแมลง การสร้างความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมมีผลกระทบจากพื้นดิน น้ำและอากาศ  (ดินเป็นกรด – ด่าง ดินเค็ม น้ำท่วมขัง ความแห้งแล้งและอื่นๆ) เป็นการเพิ่มและปรับอัตราเร่งของขบวนการ แสงสังเคราะห์ (Photo Synthesis) ในพืชให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปนั่นเอง


 

ต้นพริกประดับทั้ง 2 กระถางนี้ต่างได้รับเชื้อ ไวรัส ที่ทำให้ใบซีดเหลืองและค่อยๆล่วงหล่นไป แต่กระถางที่ได้รับสาร GPIT นั้นค่อยๆฟื้นสภาพจากใบที่เหลืองซีดกลับคืนเป็นเขียวขจี เป็นการยืนยันถึงประสิทธิภาพในการต้านทานต่อเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี 


 

นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา นักวิทยาศาสตร์การเกษตรทั่วโลกได้ให้ความสนใจและทุ่มเทเงินทุนในการวิจัยกลไกการทำงานของขบวนการ แสงสังเคราะห์ ในพืชเป็นขนานใหญ่ แต่ก็ไม่มีการพัฒนาเกิดผลคืบหน้าแต่อย่างใด จนเมื่อย่างเข้าศตวรรษที่ 20 ในปี 1987 ศาสตราจารย์ น่า จงหยวน นักวิทยาศาสตร์การเกษตรในมณฑลหยุนนาน (ยูนนาน) ประเทศจีน ได้ทำการวิจัยและทำการทดลองร่วม 778 ครั้งในทฤษฏีของ แสงสังเคราะห์ อย่างเป็นระบบ ซึ่งต่อมาได้ให้ชื่อว่า เทคโนโลยีควบคุมชักนำพันธุกรรมพันธุ์พืช (Gene Phenotype Induction technology- GPIT) นับเป็นก้าวใหม่ในการค้นพบวิธีการทำให้พืชมีศักยภาพการแสดงออกของลักษณะต่างๆที่ถูกควบคุมด้วยหน่วยของพันธุกรรม (Gene) เป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในวงการเกษตรในอนาคตข้างหน้าโดยไม่ต้องสงสัย จากความสัมพันธ์ของการสื่อสารของแสง การแสดงออกของลักษณะ (Phenotype) และศักยภาพของเซลล์ต่างๆ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญยิ่งด้วยการใช้แสงแดดมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า หนทางที่ว่านั้นก็คือ เกษตรแสงอาทิตย์


 

เกษตรกรชาวสวนในมณฑล เหอไป่ เมืองติ้งเจา ใช้สาร GPIT ราดรดโคนต้น Red apricot ญี่ปุ่น ปรากฏว่าเก็บเกี่ยวผลได้เร็วขึ้น 7 วัน ผลผลิตเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 100 ถึง 226.7 % ขนาดผลและรสชาติดีกว่าเดิมเป็นอันมาก


 

ในปี ค.ศ.1999 เดือนกันยายน นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญจาก 9 ประเทศ ได้เข้ามาศึกษาและยอมรับถึงผลสำเร็จที่น่าทึ่งน่าตื่นใจในผลงานวิจัยชิ้นนี้ พร้อมกันนั้นทางรัฐบาลจีนก็ได้บรรจุผลงานค้นคว้านี้เข้าไปประยุกต์ใช้ในโครงการ “เพิ่มผลผลิตทางอุตสาหกรรมการเกษตรแห่งประเทศ” หลังจากได้นำไปทดสอบใช้กับพืชที่ปลูกในที่ราบสูงสุด ณ.นครลาซา มณฑลปกครองตนเองชาวทิเบต จนถึงที่ราบลุ่มต่ำสุดที่ลุ่มแม่น้ำ หยวนเจียง จากพื้นที่เหนือสุดของมณฑล ไฮหลงเจียง เลียบเรื่อยมาถึงมณฑลทางใต้สุดของจีนที่ ไห่หนาน (เกาะไหหลำ) รวม 24 มณฑล ที่มีความแตกต่างกันทางสภาพพื้นที่ภูมิศาสตร์และสภาพอากาศแวดล้อม จำนวนพื้นที่ทั้งหมดสองล้านกว่าไร่ ที่ปลูกพืชพรรณธัญหารหลากหลายสิบชนิด

ปรากฏเห็นผลที่ไม่เคยมีมาก่อนจากในอดีตที่ผ่านมาว่า พืชพรรณต่างๆนับตั้งแต่ ข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด
สัปปะรด ถั่วเหลือง ฝ้าย ผลไม้ ไม้ดอก ป่าไม้ และพืชสมุนไพรต่างๆ ล้วนให้ผลผลิตเพิ่มตั้งแต่ 20 % จนกระทั่ง 200 กว่า % ก็มี พืชที่เพาะปลูกมีความแข็งแรง เติบโตเร็ว ต้านทานโรคและแมลงได้ดี ทนทานต่อสภาพแวดล้อมและอากาศที่ผันผวนได้เป็นอย่างดี ให้ผลผลิตสูงที่มีคุณภาพ เก็บเกี่ยวได้เร็วก่อนกำหนด เก็บรักษาผลผลิตได้คงทนเป็นเวลายาวนานขึ้น


 

ความแตกต่างระหว่างกล้าไม้ผลต้น พีซ ที่เพาะเมล็ดจากการแช่ด้วยสาร GPIT (ฟากฝั่งซ้าย) กับที่ไม่ได้แช่ (ขวามือ) ณ. โรงเรียนเครื่องจักรกลการเกษตรเจี้ยนสุ่ย ที่เมือง หงเหอเจา มณฑล หยินหนาน จะเห็นความแตกต่างของต้นกล้าอย่างชัดเจนว่า ห่างกันเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว


 

ผลที่เป็นไปดังนี้นั้น เนื่องจาอัตราการใช้แสงอาทิตย์ได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ขบวนการต่างๆของ แสงสังเคราะห์ เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 40 จนกระทั่งถึง 405 %  (ขึ้นอยู่กับชนิดสายพันธุ์พืช และความเข้มของแสงอาทิตย์) โดยเฉพาะในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆที่มีความเข้มของรังสีในแสงแดดมากกว่าในพื้นที่ต่ำ ทำให้ร่นเวลาอายุการเพาะปลูกได้นับสิบวัน รวมทั้งให้ผลผลิตเพิ่มไม่น้อยกว่า 20 % กระทั่งถึง 200 % (ที่พบในประเทศไทยเป็นต้น เนื่องจากอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรโลกมากว่าประเทศจีน) นอกจากนั้นแล้วต้นพืชยังมีความแข็งแรง โตไว มีความต้านทานต่อโรคและแมลงหลายๆชนิดโดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยตัวยาเคมีใดๆเข้าช่วยป้องปราบเลย แม้แต่โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็ไม่อาจรุกล้ำก่อให้เกิดอาการของโรคแม้แต่น้อย ดังเช่นโรคใบด่างวงแหวนที่เกิดขึ้นกับมะละกอในประเทศไทยเร็วๆนี้เป็นต้น  หรือจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไร่นาในนครคุนหมิง ข้าวที่ถูกลมพายุจัดพัดแรงจนต้นล้มพับจมน้ำไปแล้วนั้น หลังจากใช้สาร GPIT เข้ามากอบกู้สถานการณ์แล้ว ข้าวในไร่นาเหล่านี้ก็ยังคงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 1,488 กิโลกรัม / ไร่ แทนที่จะเสียหายเก็บเกี่ยวไม่ได้เลย หรือในอีกกรณีหนึ่งของการทดสอบก็คือ ปี ค.ศ.1998 ได้มีการนำเอาข้าวโพดไปปลูกในเขตุพื้นที่ราบสูง แชงกริลา (Shangri-La)ที่มีอากาศหนาวเย็นต่ำกว่าศูนย์ 5.4 องศา C และอุณหภูมิของพื้นผิวดินต่ำกว่าศูนย์ 9.5 องศา C ที่ข้าวโพดไม่สามารถงอกได้ แต่หลังจากได้แช่เมล็ดก่อนปลูกแล้ว ข้าวโพดกลับงอกงามได้ผลดี  แม้จะจมอยู่ในน้ำเป็นเวลา30 วันเศษ ระยะเวลาปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยวก็สั้นลง ให้ผลผลิตได้สูงถึง 1,120 กิโลกรัมต่อไร่ ติดฝัก 2 ฝักต่อต้นเป็นจำนวน 62 % และ 3 ฝักต่อต้น 40 % ความหวานของลำต้นสูงถึง 8 % เลยทีเดียว


 

เกษตรกรในเมือง สิงถาย มณฑล เหอไป่ ปลูกมะเขือ 2 แปลง แปลงหนึ่งใช้สาร GPIT บำรุงในการเพาะปลูก แต่อีกแปลงไม่ได้ใช้ ปรากฏว่าแปลงที่ใช้สารนั้นมีการเจริญเติบโตที่แข็งแรงและรวดเร็ว ต่างกับแปลงที่ไม่ได้ใช้ทางด้านซ้ายมือที่มีลักษณะผิดหูผิดตาต่างกันอย่างชัดเจน


 

ในปี 1999 ในเขต กวนตู้ชวี  นครคุนหมิง ข้าวสาลีสามสายพันธุ์ที่ปลูกในเขตนี้ต่างได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค ราแป้งอย่างรุนแรง แม้จะได้รับการฉีดพ่นยาโรคราถึง 3 ครั้งแล้วก็ไม่บรรเทาลงได้ แต่หลังจากได้ใช้ สาร GPIT เข้ากอบกู้จัดการแล้วโรคราราหยุดชะงักฉับพลันและยังคงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้สมบูรณ์เต็มที่ และในเวลาปีเดียวกันนี้ ชาวนาในเขต ป้าชวี  นครคุนหมิงเช่นกันที่ปลูกข้าวสายพันธุ์ เฮ๊อะซี่ 35  ต่างได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค ราสนิม (Rice blast) ทำให้ผลผลิตลดลงต่ำกว่าครึ่ง (480 – 720 กิโลกรัมต่อไร่) แต่ชาวนาในหมู่บ้าน เสี่ยวป่านเฉียวหยังเอ้อจ๋าชุน ที่แช่เมล็ดสายพันธุ์เดียวกันนี้ก่อนปลูก ต่างไม่มีการติดเชื้อแสดงอาการของโรคนี้แม้แต่น้อย ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้อยู่ที่ 1,440 ถึง 1,680 กิโลกรัมต่อไร่ หรือจากอีกตัวอย่างหนึ่งในการย้ายปลูกต้นไม้ใหญ่ (ไม้ล้อม) ในเมืองคุนหมิง ซึ่งเป็นไม้ดอกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า ต้าฮวาตู้เจวียน  ไม่ประสบกับความสำเร็จมากนัก เพราะหลังจากย้ายปลูกแล้วก็ค่อยๆเหี่ยวเฉา ทยอยพากันตายทีละต้นสองต้นจนเหลือรอดอยู่เป็นจำนวนน้อยมาก แต่เมื่อศูนย์วิจัยไม้ดอกตู้เจวียนฮวาในอำเภอ  จานอวี๊  ได้นำสาร GPIT มาใช้กับไม้ล้อมชนิดนี้โดยการราดรดโคนต้นก่อนทำการย้ายไปปลูกตามสวนสาธารณะตามแหล่งต่างๆ อาทิ   วัด ชวีจิ้งหยวนทงซื่อ  สวนสาธารณะ หลงผานกงหยวน  จานอวี๊ คอมเพล๊กซ์  และถ้ำ เทียนเซิงต้งสถาน  เป็นต้น ปรากฏอัตราการอยู่รอดสูงถึง 98 % ถือเป็นการยุติปรากฏการณ์ ย้ายแล้วตาย ในอดีตโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่การย้ายปลูกไม้ตู้เจวียนฮวาแล้วเหลือรอดเกือบเต็มร้อยนี้เท่านั้น แต่การย้ายปลูกไม้ดอกไม้สวยงามจากป่ามาปลูกประดับในตัวเมืองที่ไม่สามารถกระทำได้เป็นผลสำเร็จตลอดเรื่อยมานั้น แต่หลังจากการใช้สาร GPIT เข้ามาใช้แล้ว การย้ายไม้ในป่ามาปลูกในเมืองก็เป็นเรื่องที่ง่ายไปเสียสิ้น ในกรณีนี้ก็เหมือนกับการนำเอากล้วยไม้ออกจากป่าในจังหวัดจันทบุรีมาปลูกตามหมู่บ้านชายทะเล ดอกที่เคยเห็นก็ไม่เคยแทงช่อมาให้เห็นเลยแม้แต่กอเดียว แต่หลังจากราดรดด้วยสาร GPIT เพียงครั้งเดียว กล้วยไม้ป่าเหล่านี้ก็ชูช่อแทงดอกออกมาให้ชื่นชมกันถ้วนทั่วทุกกระถาง


 

ครอบครัว หวัง แย่อู่ เกษตรกรปลูกผัก ณ. มณฑล เหอไป่ เมือง ติ้งเจา ตำบล ต้าตู้เหอ ได้ทดลองปลูกผักกาดขาวนอกฤดู โดยใช้สาร GPIT ชุบแช่รากต้นกล้าก่อนย้ายปลูก ปรากฏว่าผลผลิตมากกว่าปกติถึงหมู่ละ 3,996 กิโลกรัม ลดปุ๋ยลง 50 % ลดสารเคมีเกษตรลงถึง 70 % คุณหวังบอกว่า เป็นเรื่องน่าทึ่งจริงๆ


 

จากรายละเอียดที่หยิบยกขึ้นมาแจงให้เห็นนี้ พอจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆดังต่อไปนี้

เทคโนโลยี ชักนำพันธุกรรมพันธุ์พืช GPIT (Gene Phenotype Induction Technique) เป็นการวิจัยศึกษาค้นคว้ากลไกการทำงานของขบวนการ แสงสังเคราะห์ (Photo Synthesis) ในพืช โดยการใช้สมุนไพรจีนจำเพาะหลายๆชนิด ในสัดส่วนที่เหมาะเจาะพอดีที่จะไปออกฤทธิ์กระทำต่อหน่วยพันธุกรรม (Gene) ที่ควบคุมการทำงานและการแสดงลักษณะภายนอก (Phenotype) ชักนำให้มีการทำงานเพิ่มเติมมากขึ้นกว่าเดิม หรือแม้กระทั่งชักนำยีนที่เก็บพักตัวไปแล้ว (จากการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่งอกอยู่บนบกในปัจจุบัน อย่างเช่น รากที่ทนน้ำท่วมขังได้เป็นเวลานานๆเช่น ต้นข้าว หรือผักบุ้ง เป็นต้น) ให้ฟื้นกลับมาทำงานใหม่ พืชที่ใช้สาร GPIT แล้วจะเป็นรากที่ทนต่อน้ำท่วมขังได้นานกว่าที่ไม่ได้ใช้ จึงไม่เสียหายไม่ตายไป และอยู่รอดให้เราได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ไม่สูญเสียเงินทองไปโดยปราศจากผลตอบแทนใดๆเลย


 

ต้นปรงกระถางด้านซ้ายมือ หลังจากได้รับสาร GPIT เป็นระยะเวลา 3 เดือนก็แตกใบอ่อนออกมาถึง 2 ฉัตร ส่วนต้นทางขวามือที่ไม่ได้รับสารเลยนั้น ไม่ปรากฏมีใบใหม่ออกมาให้เห็นเลยแม้แต่ใบเดียว นั่นคือความแตกต่างที่ชัดเจน


 

จากการกระตุ้นชักนำให้ยีนตื่นตัวทำงานเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ลักษณะโครงสร้างทั้งหมดของต้นพืชจึงเพิ่มมากขึ้น ใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิมมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบรากที่พัฒนาหนาแน่นมากกว่า ชอนไชได้ลึกได้ไกลกว่า จึงดูดซับน้ำและแร่ธาตุอาหารในพื้นดินที่มีระดับลึกลงไปจากเดิมที่รากเดินไปไม่ถึง ทำให้ประหยัดปุ๋ยและทนแล้งได้ดีกว่า เมื่อระบบรากดูดหาอาหารได้เต็มที่ การพัฒนาส่วนเหนือดินจึงเกิดตามมา ไม่ว่าจะเป็นการแตกยอด แตกกิ่งหรือออกใบ ตลอดจนการแทงดอกออกช่อติดผล จะดำเนินไปเต็มที่เต็มพิกัด ด้วยการเพิ่มขึ้นของกิ่ง ใบ (ทั้งจำนวนและขนาด) ที่มีพื้นผิวรับแสงแดดได้มากเป็นเท่าๆตัว ใบเขียวเข้มด้วยสาร คลอโรฟิลล์ ที่ทำงานในการปรุงอาหารส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้เพียง และมีส่วนเหลือเฟือมากพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการทำงานต่อเนื่องถึงระบบภูมิต้านทานต่อโรคและแมลงที่เข้มแข็งได้ นั่นก็คือการนำเอาพลังงานจากแสงแดดมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เต็มกำลัง ผลที่เกิดตามมาก็คือผลผลิตที่เป็นกอบเป็นกำอาจเพิ่มทวีเป็นเท่าตัวเลยก็มี โดยที่สามารถประหยัดได้ทั้งปุ๋ย ยา และแรงงานรวมทั้งเวลาในการเพาะปลูกด้วย ส่วนผลผลิตที่ได้นั้นก็สมบูรณ์มีคุณภาพ ทั้งขนาด สีสัน รสชาติ สารอาหารก็เพิ่มมากกว่าเดิม พืชผลมีความสดคงทนเก็บได้นานกว่าเป็นเท่าตัว


 

ข้าวโพดที่ปลูกพร้อมกันในพื้นที่เดียวกัน หลังจากน้ำท่วมขังเป็นเวลา 10 วัน แปลงซ้ายมือที่ไม่ได้ใช้สาร  GPIT ซีดเหลืองตายไปเกือบหมด แต่แปลงทางขวามือที่ใช้สารนี้กลับเติบโตให้ผลผลิตดี ไม่เสียหายแม้แต่น้อยนิด


 

การทดสอบว่าสาร GPIT นี้ ออกฤทธิ์ชักนำให้ยีนทำงานได้เพิ่มเติมจนลักษณะแปรเปลี่ยนผิดไปจากที่เห็นเป็นอยู่ได้ง่ายๆก็คือ หาซื้อเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม หรือที่เรียกกันว่า ถั่วนั่ง (เป็นถั่วฝักยาวสายพันธุ์หนึ่งที่ขึ้นเป็นพุ่ม ไม่ทอดยอด ไม่เลื้อยเป็นเถายาว ไม่ต้องใช้ราวให้ไต่) มาทำการแช่เมล็ด 4 – 6 ชั่วโมงก่อนนำไปปลูก ถั่วพุ่มนี้จะทอดยอดเลื้อยยาวเหมือนถั่วฝักยาวทั่วๆไป และเพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริง ควรทำการปลูกเปรียบเทียบคู่เคียงกันไปด้วย แล้วจะเห็นความจริงที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน


 

 

ต้น เปอซิมมอน ที่ปลูกในเมือง หลินชาง มณฑล  หยินหนาน ต้นหนึ่ง (ซ้ายมือ) ราดรดด้วยสาร GPIT อีกต้นหนึ่ง (ขวามือ) ไม่ได้ราด ปรากฏว่าต้นที่ได้รับสาร GPIT นั้น สามารถคงใบให้ติดทนอยู่กับต้นเป็นเวลานานกว่า 50 วัน จึงสังเคราะหอาหารผลิตผลได้มากกว่าใหญ่กว่า ส่วนอีกต้นนั้นใบร่วงโกร๋นไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว

 

พื้นที่ชายฝั่งซานตง เป็นสภาพดินเค็มที่มีเกลือสูงถึง 5 % ค่า พีเอช 8.3 เมื่อปลูกข้าวโพดเปรียบเทียบระหว่างการใช้สารGPIT กับไม่ใช้ ปรากฏว่าส่วนที่ใช้อัตรางอก 80% เจริญเติบโตได้ดี ส่วนที่ไม่ได้ใช้ อัตรางอกเพียง20% เมื่อความสูงได้สิบกว่า ซม. ก็ล้มตายหมด มีหญ้าทนเค็มงอกขึ้นมาแทนที่ดังที่เห็น 


 

เมื่อพิเคราะห์ดูจากบทความที่สาธยายมาทั้งหมดนี้แล้ว บางท่านอาจจะพิศวงงงงันมากยิ่งขึ้นไปอีกว่า สารสมุนไพรอะไรจะวิเศษถึงปานนั้น แต่สามารถกล่าวยืนยันได้ด้วยหลักฐานที่มีอยู่จริงและเป็นจริงเต็ม100 %และกล้าอาจหาญกล่าวได้ว่า เทคโนโลยี ชักนำพันธุกรรมพันธุ์พืช GPIT ที่ว่านี้จะมีบทบาทต่อวงการเกษตรโลกอย่างเอกอุต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อเกษตรกรได้เห็นสรรพคุณและประสิทธิภาพของสารนี้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ นับเป็นการเรียนรู้เข้าใจธรรมชาติ นำธรรมชาติมาใช้สอยอย่างสมดุลโดยไม่ทำความเสียหายให้กับโลกใบนี้อีกต่อไป ถือเป็นเกษตรวิถีทางธรรมชาติที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง


 


คณะนักเรียนจากโรงเรียนฝึกอบรมสมาชิกพรรคฯ ได้เข้าศึกษาเยี่ยมชมผล
การวิจัยทดสอบสาร GPIT ที่ใช้เปรียบเทียบกับข้าวที่ปลูกในเขต หวานตู้ชวี
ทั้ง 3 สายพันธุ์ เกิดการระบาดของโรคราแป้ง สังเกตเห็นได้ชัดว่า
รวงข้าวแปลงซ้ายมือเปลี่ยนสีไปแล้วทั้งแปลง แม้จะพ่นยาเคมีถึง 3 หนก็ตาม
แต่แปลงขวามือทีนำสาร GPIT มาใช้เพาะปลูกนั้นกลับไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
แม้จะอยู่ใกล้ชิดติดกันก็ตาม


 

หมายเหตุ :

 สาร GPIT ที่ผลิตจำหน่ายในประเทศไทย ขึ้นทะเบียนสินค้าอยู่ 2 ชื่อ คือ นาซี 778 และ เพาเวอร์-เอส ในรูปของสารละลาย โดยมีสารสมุนไพรเป็นตัวออกฤทธิ์ มีน้ำนาโนแอ๊คติเวทเต็ด (Nano Activated Water) เป็นตัวทำละลายที่มีประสิทธิภาพในการนำพาเอาสารออกฤทธิ์เข้าสู่ภายในต้นพืชได้สูงและรวดเร็ว สาร GPIT ผลิตออกจำหน่ายเพียงสูตรเดียวในประเทศไทย แตกต่างจากที่วางจำหน่ายในประเทศจีน ซึ่งมีอยู่หลายสูตร เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนที่มีอากาศร้อนตลอดเกือบทั้งปี ไม่มีฤดูกาลที่แตกต่างกันถึง 4 ฤดูอย่างประเทศจีน เพราะสาร GPIT นี้ออกฤทธิ์ผันแปรไปตามอุณหภูมิและความเข้มข้นของสาร เมืองไทยจึงมีวิธีการใช้ที่สะดวกง่ายดายกว่ากันมาก


 

ในปี 1999 ได้มีการนำเอาข้าวโพดที่ผ่านการแช่เมล็ดด้วยสาร GPIT ไปปลูก ณ. ที่ราบสูง ลาซา
เหนือระดับน้ำทะเล 3,658 เมตร ปรากฏว่ามีลำต้นอวบ สูงใหญ่ ติดฝักสมบูรณ์ตั้งแต่ 3 ถึง 5 ฝัก
บางต้นมีฝักถึงมากถึง 8 ฝัก ฝักใหญ่ยาวถึง 65 ซม. ลอกเปลือกออกแล้ววัดได้ 43 ซม.


 

 

การทดสอบความต้านทานต่อโรคราในต้นใบยาสูบที่จัดทำขึ้นที่ มหาวิยาลัยเกษตร คุนหมิง ปรากฏว่าต้นกล้าที่เพาะในถาดเพาะทางขวามือ ที่ใช้สาร GPIT กระตุ้นการทำงานของยีน เติบโตแข็งแรง ไม่ปรากฏโรคแม้แต่น้อยนิด ส่วนทางซ้ายมือนั้นเสียหายเกือบทั้งหมดจากเชื้อราที่ใช้ทดสอบ

 

รวงข้าวสาลีที่ใช้สาร GPIT มีความทนทานต่ออากาศที่หนาวเย็นได้เป็นอย่างดี แม้จะถูกเกล็ดหิมะจับเกาะเป็นเวลานานก็หาได้แข็งสุกเสียหายด้วยความหนาวเหน็บแต่อย่างใดไม่


 


ผลการทดสอบสาร GPIT กับข้าวสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์มาแล้ว
(ซ้ายมือ) ให้ผลผลิตสูงมาก รวงที่สมบูรณ์นั้นให้เมล็ดข้าวถึง 660 เมล็ด
เก็บเกี่ยวได้ก่อนแปลงทางขวามือที่ปลูกเปรียบเทียบกันเป็นเวลาถึง 40 วัน
ทั้งๆที่ปลูกก่อนแปลงซ้ายมือถึง 7 วันก็ตาม

 


 

สาร GPIT มีผลที่เด่นชัดอย่างยิ่งในการสร้างภูมิต้านทานให้เกิดขึ้นในพืชพรรณเกือบทุกชนิด มีผลเด่นเหนือกว่าการใช้สารเคมีหลายๆชนิด แปลงข้าวที่เห็นทางขวามือนั้นติดโรคราสนิม (Rice blast) ที่มีผลกระทบต่อผลผลิตหนักหนาสาหัส ส่วนแปลงซ้ายมือที่ติดกันนั้นกลับไม่มีอาการของโรคแต่อย่างใด


เกษตรกรในอำเภอ หลานเถียน มณฑล ส่านซี นำสาร GPIT มาใช้ในแปลงปลูกข้าวโพดโดยไม่ใช้ปุ๋ยเลยตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยว แต่ก็ให้ผลผลิตสูงถึง 2,352 กิโลกรัม / ไร่ เลยทีเดียว

เกษตรกร แซ่หลี่ 2 ครอบครัว หลี่ เจียปอ และ หลี่ปังชู มณฑลซานซี ได้นำสาร GPIT มาใช้ในไร่ข้าวโพด ปรากฏว่าติดฝัก 2 ฝักขึ้นไป และที่ติดฝัก 3 ฟักมีจำนวนถึง 60 % ติดฝักสูงสุดถึง 7 ฝักที่เป็นฝักสมบูรณ์ถึง 6 ฝัก ผลผลิตเพิ่ม 40 %


 


 

กล้วยหอมที่ปลูกในอำเภอเชียงดาว ใช้สาร GPIT ราดโคนต้น 2 ครั้ง ปรากฏว่าตกเครือที่ยาวมาก ลำต้นทานรับน้ำหนักไม่ไหวจนต้องตัดทิ้งไปครึ่งหนึ่ง ผลกล้วยในแต่ละหวีดกมาก มีตั้งแต่หวีละ 25 ผล จนกระทั่ง 35 ผล ผิวสีเหลืองสวย ไม่ด่างดำแม้จะช้ำ ผลติดทนแน่นทนนานแม้นว่าผลจะสุกงอมก็ตาม รสดีมากๆ กลิ่นหอมกว่ากล้วยหอมทั่วๆไป ได้เปรียบในด้านการขนส่งทางไกลเป็นอย่างดี


ได้มีการนำเอาสาร GPIT มาทดสอบใช้กับต้นกล้าพันธุ์ไม้หลายๆชนิด
ทำให้ต้นกล้าเติบโตเร็วกว่าเท่าตัว ต้นกล้า แข็งแรง อัตราการรอดเมื่อนำลงแปลงปลูก
สูงถึง 98 % อัตราสูญเสียหายต่ำมาก ทำให้ประหยัดทั้งเงินทอง
แรงงานและเวลาเลยทีเดียว ต้นกล้า ยูคาลิปตัส ฝั่งซ้ายมือนั้นเปลี่ยนแปลงผิดไป
จากฝั่งขวามืออย่างชัดเจน หลังฉีดพ่น สาร ให้ทางใบเพียง 7 วันเท่านั้น




ข่าวสาร - สาระน่ารู้

ความเชื่อมั่นของกองทัพ (จีน) ที่มีต่อผลิตภัณฑ์ นาซี 778
เหตุผลที่เราเลือกเทคโนโลยี GPIT (ผลิตภัณฑ์ นาซี 778) มาใช้กับการเพาะปลูกของเรา
ในเมื่อมีเทคนิค GPIT ที่ดีกว่าร้อยเท่า
ถ้าผลงานของ เหยี่ยนหลงผิง ประเมินค่าได้ 10 ล้าน ผลงานของ น่าจงหยวน ต้องมีมูลค่าถึง 30 ล้าน
ปฏิวัติการเกษตรครั้งที่ 2
นาซี ฉีฉีฟา (那氏齐齐发)
และแล้ว ผมก็เชื่อจนหมดใจ
น้ำ 1 ถัง ล้างรถได้ 1 คัน
เพราะตอบผิดทุกท่าน (และทุกข้อ) จึงได้รับของสมนาคุณ
แวะเวียนกลับไปดูผลลัพธ์ article
ภาพที่เห็นนี้ ตัดต่อ - เติมแต่งหรือไม่ ?
โชคดีที่เกิดตามมาหลังน้ำท่วมใหญ่ article
ถั่วเหลืองที่งอกเป็นเถาไม้เลื้อย คุณเคยเห็นบ้างไหม ? article
คุณจะเชียร์ฝ่ายไหน ? เจ้าสูง หรือ เจ้าเตี้ย article
นาข้าวคุณสุไลมาน ยังคงงามเป็นหนึ่งในละแวกนี้ ? article
แล้วคุณยังจะลังเลใจไปอีกนานเท่าไร ?
แล้วคุณยังจะลังเลใจอยู่อีกหรือ ? article
ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ให้ไปดูให้เห็นกับตา ... แต่อย่าได้ชักช้า article
ผักยะวารากสีม่วง (จื่อเกินสุ่ยหูหลู / 紫根水葫芦) พืชบำบัดน้ำเสียสายพันธุ์ใหม่ article
ต้นปาล์มที่หยั่งรากยืนต้นอันสมบูรณ์บนหาดทรายผืนนี้ article
ถ้าผมบอกว่า ...... article
ปรากฏการณ์อันเป็นผลเนื่องมาจาก นาซี 778 article
นาซี 778 รังสรรค์ให้ได้อีกแล้ว article
เหลือเชื่อ เหลือเชื่อสุดๆ ! article
นี่สิเรื่องจริง เสียงจริง article
เกษตรแสงอาทิตย์ article
คำแนะนำที่ยากจะเชื่อว่าเป็นไปได้ article
เล็บนก ที่ว่าเหลือเชื่อแล้ว เล็บมือนางยิ่งเหลือเชื่อกว่า ! article
เล็บนก ที่ไม่ใช่เล็บนก article
คุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่น 4 ประการของ นาซี 778 article
หวังผลอย่างเดียว แต่ได้แทบทุกอย่าง article
เหนือฟ้า ยังมีฟ้า article
ประวัติพัฒนาการทางการเกษตร article
ลับ ลวง พราง ? article
จาก ธรรมดา ผันเปลี่ยนกลับกลายเป็น ไม่ธรรมดา article
มะม่วงยักษ์ ลูกละ 2 กิโลกรัม article
จาก 2 เดือน มาเป็น 4 เดือน มีผลิตภัณฑ์อะไร ชนิดไหนรังสรรค์ให้คุณได้ ? article
ผมคงไม่มีทางหลุดพ้นจากความยากจน ชีวิตไม่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทุกวันนี้ได้ หากไม่ได้พานพบกับ นาซี 778 article
สวนมะขามหวานแห่งนี้ทำไมจึงไม่เหมือนสวนอื่น article
นาซี 778 ช่วยบำบัดน้ำเสีย ? article
ความวิตกกังวลใจที่ไม่ต้องเป็นทุกข์อีกต่อไป article
จริงหรือ ที่ต้นพืชถูกน้ำท่วมขังแล้วไม่ตาย ? article
ผมไม่เชื่อหรอกว่า นาซี 778 มีสรรพคุณดีดั่งคำโฆษณา article
บทสรุปผลผลิตหอมแดงที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ article
ไม่ใช่ยามหัศจรรย์ แต่เป็นยาเทวดา ! article
ความจริงที่ได้รับการพิสูจน์ article
ความจริงที่ได้รับการยืนยัน II article
ความจริงที่ได้รับการยืนยัน article
ตอกย้ำความจริง article
คุณเชื่อไหมว่า article
เกษตรแสงอาทิตย์ article
ความแตกต่างที่ไม่มีผลิตภัณฑ์อื่นใดสามารถกระทำได้ article
นาซี 778 กับการแก้ปัญหาดินเค็ม article
พืชที่คุณปลูกได้รับพลังงานเพียงพอแล้วหรือ? article
หนังสือรับรองผลิตภัณฑ์ อินทรีย์ article
ชมอัลบั้มรูปถ่ายผลของ นาซี 778 article
แสงสุรีย์ article
บอกลาความยากจนกันเสียที article
จดหมายบอกเล่าความจริง article
เทคโนโลยี GPIT หนทางกสิกรรมธรรมชาติ ด้วยเกษตรแสงอาทิตย์ article
คุณเชื่อหรือไม่ ? article
เรื่องจริง ยิ่งกว่าโกหก! article
รูแม๊กซ์ – เค วัน (Rumex K-1) article
ทอร์มาลีนในบ่อกุ้ง article
มาลัยร้อยใบ article
โรคในมะละกอ? เรื่องเล็ก ถ้ามีนาซี 778 article
นาซี 778 ในไผ่ตง และยางพารา article
ผลของนาซี 778 ในถั่วเหลือง article
การเปลี่ยนแปลงของถั่วเหลือง article
ผลการใช้นาซี 778 ในลองกอง article
ผลของนาซี 778 ในข้าว article
ผลของนาซี 778 ในลองกอง และลำใย article
ผลของนาซี 778 ที่มีต่อการติดผลของปาล์มน้ำมัน article
ลำไยที่บ้านพี่ปูติดลูกดกเหลือเชื่อ ดกกว่าปีที่แล้วเสียอีก article
ผลของนาซี 778 (GPIT) article
เสียงตอบรับจากผู้ใช้: ยางพาราปลูก 4 ปีเปิดกรีดได้! article
ผลอันน่าทึ่งน่าตื่นใจของ นาซี 778 (I) article
ผลอันน่าทึ่งน่าตื่นใจของ นาซี 778 (II) article
เทคโนโลยีจีพีไอที (GPIT) กับประเทศไทย (I) article
เทคโนโลยีจีพีไอที (GPIT) กับประเทศไทย (II) article
เทคโนโลยีจีพีไอที (GPIT) กับประเทศไทย (III) article
Nano 863 (II) article
Nano 863 (I) article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
Welcome to Eco-agrotech.com Photo Albums
Google