มาลัยใบกลิ่นสน  เป็นชื่อพืชใบกว้างชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดแถบทวีปอเมริกาเหนือในประเทศสหรัฐอเมริกา และ แคนาดา  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Silphum Perfolialum L. ประเทศจีนได้นำเข้าจากประเทศเกาหลี เมื่อปี ค.ศ. 1979  เป็นพืชใบกว้างยืนต้นหลายฤดู  ใบใหญ่ปลายใบแหลม ขอบหยัก  ยาวประมาณ 40 เซนติเมตร  กว้าง 30 เซนติเมตร  มีขนขาวบนใบ    ใบขึ้นเป็นชั้นๆเรียงซ้อนชิดแน่นตรงกันข้ามสี่ด้าน มีกลิ่นคล้ายกลิ่นของใบสน  จึงมีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า ช่วนแยะสรงเซียงฉ่าว  (串   叶   松   香   草  ) แปลความหมายได้ว่า  ต้นมาลัยใบกลิ่นสน  มีอายุขัยยืนยาวร่วม 12 ปี  มีส่วนประกอบของโปรตีนสูงถึง 18 %  ระบบรากชอนไชลึก 10- 30 เซนติเมตร  เจริญเติบโตทางใบมากในปีแรก  ความสูงต้นประมาณ 1 เมตร  และเริ่มขยายทางลำต้นในปีที่ 2 จะเริ่มมีการแตกกิ่งข้างและออกดอกในระยะนี้  ความสูงต้นอยู่ที่ 2 เมตรเศษ  และจะสูงถึง 3 เมตรในปีที่ 3 มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมสูง   ขึ้นได้ในที่ๆมีความสมบูรณ์ต่ำ   ทนความแห้งแล้งและอากาศหนาวเย็นสามารถพักตัวอยู่ได้ที่อุณหภูมิติดลบที่ 38 องศา C และทนทานในภูมิอากาศร้อนถึง 40 องศา C   ขึ้นได้ดีในดินที่มี Ph 6.5 ถึง 7.5  อุณหภูมิ 30 องศา C ขึ้นไป  ทนต่อน้ำท่วมขังได้ดี  ต้นมาลัยใบกลิ่นสนไวต่อความเป็นกรดมาก  ในดินที่มี  Ph 4.5 – 5  การเจริญเติบโตจะชะงักงัน  ลำต้นจะแคระแกร็น  ระบบรากจะไม่พัฒนา
การเก็บเกี่ยวจะเริ่มทำได้เมื่อย่างเข้าปีที่ 2 โดยต้นจะมีการแตกกอ 3 – 4 กอ  ลำต้นจะอวบใหญ่  ให้ผลผลิตน้ำหนักสด 36 ตันต่อไร่  คิดเป็นน้ำหนักแห้งประมาณ 10 ตันต่อไร่  สามารถเก็บเกี่ยวได้ปีละ 3 ถึง 4 ครั้ง  ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของดิน   

เมื่อเทียบคุณค่าทางอาหารโดยยึดถือเอาส่วนของโปรตีนเป็นเกณฑ์แล้ว    ผลผลิตน้ำหนักแห้งต่อปีของต้นมาลัยใบกลิ่นสน 1 ไร่  (10 ตัน)    จะเทียบได้เท่ากับผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (โปรตีน 8 – 8.5 %) ถึง 37 ไร่เลยทีเดียว  (เม็ดข้าวโพด 1.2 ตันต่อไร่)   ถ้าเราปลูกต้นมาลัยใบกลิ่นสนมาใช้ทดแทนข้าวโพดในสูตรอาหารสัตว์   เราจะลดพื้นที่การปลูกข้าวโพดได้จำนวนมาก  ลดทั้งเวลาและแรงงานได้จำนวนไม่น้อยเลยเช่นกัน  เป็นการลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีหนทางหนึ่ง  ต้นมาลัยใบกลิ่นสนออกดอกในแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก  ดอกออกสีเหลืองสด  บานอยู่เป็นเวลานาน  แมลง-ผึ้งชอบบินตอม  เราสามารถทำการเลี้ยงผึ้งเก็บน้ำหวานเพิ่มรายได้อีกโสดหนึ่ง  ต้นมาลัยใบกลิ่นสนมีคุณค่าทางอาหารสูง  หากแต่มีรสไม่เป็นที่ชวนกินของสัตว์บางชนิด  จึงควรที่จะนำไปผสมกับพืชอาหารสัตว์ชนิดอื่นๆเป็นการเพิ่มความน่ากินได้ดียิ่งขึ้น  

การขยายพันธุ์ส่วนใหญ่ใช้เมล็ด ปริมาณของเมล็ด 1  กิโลกรัมสามารถเพาะกล้าย้ายปลูกได้ในพื้นที่ 1 ไร่  ปลูกได้ 7,000 ต้นต่อไร่  หากจะทำการหว่านเมล็ดปลูกต้องใช้เมล็ดพันธุ์  1.5 – 2.0  กิโลกรัมต่อไร่  ระยะปลูกปีแรก  ระหว่างแถว  60  ซม. ระหว่างต้น  30  ซม. ปีที่ 2 ให้ขุดถอนออกแถวเว้นแถว จะได้ระยะปลูกเป็น 60 คูณ 60 เซนติเมตร เมื่อต้นสูง 50 ซม.ก็ทำการเก็บเกี่ยวใบไปใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
ในน้ำหนักสด 1 กิโลกรัมของต้นมาลัยใบกลิ่นสนมีโปรตีนที่ย่อยได้ 33.2 % น้ำหนักแห้งของต้น มาลัยใบกลิ่นสน จะมีโปรตีนอยู่ 20.6 % อัตราส่วนที่ผสมในอาหารสัตว์ไม่ควรเกิน 10 % ต้นมาลัยรอยใบยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย สัตว์ที่กินมาลัยใบกลิ่นสนจะมีความต้านทานต่อโรคได้ดี สุขภาพแข็งแรงร่าเริง
ใบสดของต้น มาลัยใบกลิ่นสน ใช้เลี้ยง  แพะแกะ  วัวควาย  สุกรเป็ดไก่ได้เป็นอย่างดี