การเผชิญหน้ากับปัญหาแนวทางการเกษตรเคมีที่มีผลอันเลวร้ายนี่เอง รัฐบาลทั่วโลก รวมทั้งนักวิชาการทั้งหลายต่างทำการวิจัยและหาหนทางในการยกเลิกการใช้สารเคมีเกษตรในการผลิตพืชผล และพยายามหาแนวทางและเทคนิคใหม่ในการเพิ่มผลผลิตหลังจากงดใช้สารเคมีลงไป จึงได้เน้นถึงการใช้ประโยชน์และประสิทธิภาพจากแสงแดดเป็นธงนำหัวข้อหลักในการวิจัยค้นคว้า ประเทศจีนเองก็ได้จัดตั้งหน่วยงานวิจัย กลไกและขบวนการแสงสังเคราะห์ เป็นกรณีพิเศษ องค์กรนี้จัดตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์จงเคอย่วน (中科院的植物研究所) รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 5 ล้านหยวน (สองร้อยห้าสิบล้านบาท) เพื่อวิจัยค้นคว้าหาทางเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการแสงสังเคราะห์ในพืชไร่ 2 ชนิดที่ชาวจีนบริโภคเป็นหลัก นั่นก็คือ ข้าว กับ ข้าวสาลี ให้มีอัตราเพิ่มของแสงสังเคราะห์ขึ้นให้ได้ 20 – 30 % เวลาล่วงผ่านมาหลายปีดีดัก ก็ยังไม่มีแววความคืบหน้าใดๆทั้งจากต่างประเทศและภายในประเทศ
ท่านศาสตราจารย์ น่า จงหยวน ได้ให้ความสนใจต่อสาระสำคัญอันเป็นแก่นของหัวข้อเรื่อง “ประสิทธิภาพของแสงในการต้านความเครียด” (抗逆高光效) นั่นก็คือปัญหาอันเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแสงสังเคราะห์กับวิธีการควบคุมความเครียดที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับพืชพรรณ์ธัญหารที่ปลูก เป็นหัวข้อและแนวทางทำการวิจัยที่สำคัญยิ่ง จากความมุมานะบากบั่นไม่ย่อท้ออย่างขยันขันแข็งต่อเนื่องกันมาร่วม 14 ปี ผ่านการทดสอบลองผิดลองถูกกว่า 778 ครั้ง จึงประสบกับต้นแบบของความสำเร็จ และได้รับลิขสิทธิ์ค้นคิดประดิษฐ์จากประเทศชาติในปี 1994 และในปี คศ.1999 จึงได้ทำการผลักดันผลิตภัณฑ์นี้ออกสู่ตลาดอย่างจริงจัง (แต่ต้องประสบกับปัญหาการยึดติดกับความเชื่อเก่าที่ยังสลัดไม่พ้นจากความคิดที่ว่า เป็นไปไม่ได้ที่สารสมุนไพรจะให้ผลดีกว่าสารเคมี)
ในปี คศ.1999 กันยายน เหล่านักวิชาการจากกระทรวงเกษตร ศูนย์วิจัยการเกษตร ได้จัดประชุมสัมมาทำการวิจารณ์และประเมินผลงานของท่านศาตราจารย์ น่า จงหยวน ได้ลงมติสรุปผลว่า ผลงานวิจัยชิ้นนี้ถือเป็น ผลงานยอดเยี่ยมชั้นแนวหน้าของโลก นักวิชาการผู้ชำนาญการด้าน แสงสังเคราะห์ ของประเทศ (จีน) ได้กล่าวยกย่องผลงานการค้นพบและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมานั้นป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่น่าสรรเสริญเป็นยิ่งนัก และจากการตรวจสอบของศูนย์วิจัยทางวิชาการของมณฑลยูนนานผ่านทางศูนย์ข้อมูลระหว่างประเทศแล้ว ยังไม่มีรายงานผลการวิจัยทางด้านนี้ทั้งต่างประเทศและในประเทศแต่อย่างใด
|