เมื่อเอ่ยถึงผักตบชวา น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักไม่เคยเห็น เพราะมันมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกแห่งหนในแม่น้ำลำคลองหนองบึง แพร่กระจายพันธุ์ปิดครอบผิวน้ำมิดไปทั่วบึงก็มี ปัจจุบันมีการวิจัยพบว่า ผักตบชวานั้นมีคุณสมบัติดูดซับสารก่อมลภาวะที่ทำให้น้ำเน่าเสียได้เป็นอย่างดี เปรียบเสมือนตัวฟอกกรองน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่ง แล้วนาซี 778 จะมีบทบาทในด้านนี้อย่างไร ?

ผักตบชวาฝรั่งเรียกว่า Water Hyacinth (EichhorniacrassipesSloms) มีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า ผักปอด ผักสวะ หรือ ผักยะวา ผักป่อง ก็เรียก จีนเรียกชื่อว่า เฟิ่งเหยี่ยนเหลียน (凤眼莲 / บัวนัยนาหงส์) เฟิ่งเหยี่ยนหลาน (凤眼兰 / กล้วยไม้นัยตาหงส์) สุ่ยหูหลู (水葫芦 /น้ำเต้าน้ำ)

การดูดซับสารต่างๆของผักตบชวานั้นอาศัยรากซึ่งเป็นส่วนที่จมอยู่ใต้ผิวน้ำ หากปริมาณของรากนั้นหนาแน่นมีจำนวนมากและแพร่กระจายไปในวงกว้างกว่าก็ย่อมทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่า และปัจจุบันพบว่ารากของต้นผักตบชวาที่ดูดซับสารสิ่งโสโครกได้ดีที่สุดนั้นก็คือ รากของผักตบชวาสายพันธุ์ต้นเล็กที่มีระบบรากออกเป็นกระจุกสีม่วงแก่ ซึ่งพบว่ามีข้อด้อยก็คือรากมันไม่มีความคงทน โดยจะมีการแตกรากใหม่ออกมาทดแทนรากเก่าซึ่งจะเน่าเสียกลายเป็นปัญหาเพิ่มขึ้น แต่หลังจากที่ได้ใช้ นาซี 778 มาฉีดพ่นให้ทางใบ ปรากฏว่าส่วนของรากนั้นมีการเจริญเติบโตต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว รากมีความคงทนไม่เน่าเสียดังก่อน ทำให้การดูดซับสารสิ่งโสโครกได้มีประสิทธิผลมากยิ่งๆขึ้น

หลังจาก ได้รับสาร นาซี 778 ผักตบชวาสายพันธุ์เล็กที่มีระบบรากพัฒนาดีกว่าลำต้น

ผักตบชวาสายพันธุ์ใหญ่ที่มีระบบลำต้นพัฒนาดีกว่าราก

ภาพเปรียบเทียบ ผักตบชวาสายพันธุ์ต้นใหญ่ (ล่าง) กับสายพันธุ์ต้นเล็ก (บน) ที่มีความแตกต่างกันด้านขนาดของลำต้นแล้ว ระบบรากก็ยังแตกต่างกันด้วย ผักตบชวาต้นเล็กที่เห็นมีรากฝอยเส้นเล็กสีออกม่วงแก่นั้นได้รับสาร GPIT (นาซี 778) จึงทำให้ระบบรากเจริญเติบใหญ่กว่าปกติเป็นเท่าตัว และมีความคงทนไม่เสื่อมโทรมเน่าเสียเหมือนดังก่อน จึงทำให้การฟอกน้ำเสียนั้นดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน ส่วนผักตบชวาต้นใหญ่นั้นระบบรากจะมีการพัฒนาน้อยกว่าลำต้น ทำให้มีรากฝอยน้อยกว่า ประสิทธิภาพการทำงานจึงด้อยกว่าสายพันธุ์ต้นเล็ก

 

ดอกสีม่วงสดใสอันสวยงามของเฟิ่งเหยี่ยนเหลียน (ผักตบยะวา)
 

ลักษณะของใบและดอกที่ดูแล้วงามตาชวนมอง

ผักตบชวาสายพันธุ์เล็ก

ปัจจุบันประเทศไทยได้นำหลักการฟอกน้ำเสียด้วยผักตบชวามาใช้ที่บึงมักกะสันอันเป็นเขตุพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่รับสนองพระราชดำริโดยมูลนิธิชัยพัฒนาร่วมกันกับกรุงเทพมหานคร จากการวิจัยพบว่า ผักตบชวาสด 1 ตันนั้นสามารถบำบัดน้ำใช้จากครัวเรือนของประชาจำนวนมากถึง 800 คนทีเดียว ผักตบชวาที่เจริญเติบโตในพื้นที่ 5 ตารางเมตรนั้น สามารถบำบัดน้ำเสียได้จำนวน 1 ตัน โดยใช้เวลาฟอกนาน 8 วัน จากการให้น้ำไหลเวียนที่ระดับความลึก 1.0 ถึง 1.8 เมตร ด้วยบ่อน้ำที่เชื่อมต่อกันหลายๆบ่อ